แน่นอนว่าหากลูกน้อยต้องนอนโรงพยาบาล ก็คงจะเป็นเรื่องน่ากังวลใจสำหรับคุณพ่อคุณแม่อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกับลูกที่ยังเล็กอยู่ ซึ่งนอกจากอาการป่วยแล้ว ลูกน้อยยังต้องปรับตัวให้กับที่ที่ไม่คุ้นเคยอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่จะมีวิธีช่วยให้ลูกน้อยเตรียมตัวและปรับตัวได้อย่างไรบ้างเราไปดูกันเลยค่ะ &nbsp;&nbsp;<hr>วิธีรับมือเมื่อลูกน้อยต้องแอดมิด<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3486/9f8f2732-5c4c-4da9-b42c-e1e5a08e56d3.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">เพิ่มความคุ้นชินให้ลูกลูกน้อยในวัยเตาะแตะ👶 เป็นวัยที่ต้องการความไว้เนื้อเชื่อใจและมักจะต้องการอยู่ใกล้คนที่เขารักเสมอ เมื่อเข้าร.พ. นอกจากความเจ็บปวดทางร่างกายแล้ว เจ้าตัวเล็กก็ยังเกิดความเครียดทางจิตใจด้วย ดังนั้นการเพิ่มความคุ้นเคยกับโรงพยาบาลจึงเป็นสิ่งสำคัญ อาจจะพาลูกเดินเล่นไปตามส่วนต่างๆของโรงพยาบาล🏥เพื่อให้เกิดความเคยชินและไม่กลัวกับพื้นที่นั้นๆช่วยให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายคุณพ่อคุณแม่อาจเล่าให้ฟังว่าการเจ็บป่วยและนอนร.พ.🏥เป็นเรื่องธรรมดาและเด็กคนอื่นๆก็พบเจอ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะคอยอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าจะกลับบ้านพร้อมกัน อาจหาของเล่นชิ้นโปรด หรือ เปิดทีวีช่องการ์ตูน📺ให้ลูกดูก็จะทำให้ลูกสบายใจขึ้นได้เช่นกันค่ะ&nbsp;<hr>วิธีรับมือเมื่อลูกน้อยต้องแอดมิด<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3486/af3a0cef-f605-4b96-993a-f3feef21e4b8.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">เตรียมตอบคำถามลูกในวัยนี้มักมีข้อสงสัยและคำถามมากมาย อย่าง จะเจ็บหรือเปล่า จะได้กลับบ้านเมื่อไหร่🤔💭 ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรจะตอบให้ตรงกับความเป็นจริงและตอบอย่างชัดเจน โดยอาจจะบอกลูกล่วงหน้าคร่าวๆว่า หากเข้าไปแล้วเราจะได้คุยกับคุณหมอนะ แล้วก็จะมีพี่พยาบาลใจดีมาดูแลดูจนหายดีเลยจ้ะคอยอยู่ด้วยตลอดสำหรับเด็กเล็ก ทางโรงพยาบาล🏥 มักจะอนุญาติให้คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองสามารถเฝ้าค้างคืนได้ โดยคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียว แม้ว่าจะเป็นการไปพบพูดคุยกับคุณหมอ หรือ ลงไปซื้อของในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะนั่นจะทำให้เด็กรู้สึกลูกทิ้งและกลัวโรงพยาบาล😢 หากมีความจำเป็นควรแจ้งพยาบาลให้มาเฝ้าตอนที่ไม่มีคนอยู่จะดีที่สุดค่ะ<hr>ทำอย่างไรดีเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงาน<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3486/60af4103-64fd-4877-93db-424d71f29a16.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ขอความช่วยเหลือจากญาติด้วยยุคสมัยที่ทั้งคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องทำงานและไม่มีใครสามารถมาเฝ้าลูกได้ตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่อาจแก้ปัญหาด้วยการขอความช่วยเหลือจากญาติผู้ใหญ่👪ให้อยู่ดูแลแทน และบอกกับลูกว่าคุณพ่อคุณแม่จะกลับมาเจอในเวลาไหนบ้าง และควรจะรักษาสัญญาให้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว เด็กจะรู้สึกว่าไม่มีความมั่นคงทางจิตใจ ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในตอนนี้&nbsp;เลือกโรงพยาบาลใกล้ที่ทำงานก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าพิจารณา เพราะคุณพ่อคุณแม่จะสามารถแวบออกมาหาลูกได้ตอนพักกลางวัน🕛 และยังช่วยย่นระยะเวลาเดินทางไปมาหากันหลังเลิกงานได้อีกด้วย

ทำอย่างไรเมื่อลูกน้อยต้องแอดมิด?

임신하면 엄마들은 모든 것이 조심스러워져요. 특히 음식의 경우 엄마들은 임신 전에 좋아하던 것들을 먹지 못하는 경우가 많아서 스트레스를 받고는 해요. 그중 하나가 초콜릿인데요. 초콜릿🍫 에 들어있는 카페인과 당 성분 때문에 엄마들이 망설이는 경우가 많아요. 그렇다면 초콜릿 먹어도 될까요?<hr>초콜릿🍫 임산부에게 안 좋은 이유?<img src="https://s3.ap-northeast-2.amazonaws.com/images.villagebaby.kr/posts/891/07ea4d1f-9966-421a-949d-2b026dd126c3.gif" style="width: 100%;">왜 구러는 건데... 왜 안 좋은 건데....(아련)☕ 카페인임산부는 카페인을 분해하는 데 오랜 시간이 걸리는데요. 특히 카페인을 과다 섭취할 경우 혈관이 수축하고 철분 흡수에 방해를 받을 수 있어요. 초콜릿은 30g당 15~16mg 정도의 카페인이 함유되어 있는데요. 임산부 하루 카페인 권장량이 300mg 이하인 사실을 고려해 봤을 때 한, 두 조각 정도의 소량 섭취는 괜찮다고 해요.🍬 당초콜릿은 체내 혈당을 빠르게 높여주게 되는데요. 그 결과 임신성 당뇨의 위험성이 커질 수 있어요. 또 과다한 당 섭취는 체중을 증가시켜 임신성 고혈압, 임신 중독증까지 생길 수 있다고 하니 과다 섭취는 꼭 주의해야 해요.<hr>초콜릿🍫 긍정적인 효과?<img src="https://s3.ap-northeast-2.amazonaws.com/images.villagebaby.kr/posts/891/176ce918-fa7c-4512-aca9-b42e1f6b9ecd.gif" style="width: 100%;">이걸 어떻게 참을 수 있죠..?🩸 혈류공급아주 소량의 초콜릿 섭취는 건강에 좋다는 연구 결과도 있어요. 초콜릿의 주성분인 천연카카오🍃에 들어있는 플라보놀 성분이 활성산소를 제거해 혈액순환에 도움을 준다고 해요.&nbsp;😄 엔돌핀 활성화초콜릿은 엔돌핀을 활성화시켜 우울증을 낮춰주고 긴장과 불안을 완화해 준다고 해요. 엄마가 우울할 때 소량의 초콜릿은 태아까지 기분 좋게 만들어 주게 돼요.<hr>초콜릿🍫 대체간식은 무엇이 있을까?<img src="https://s3.ap-northeast-2.amazonaws.com/images.villagebaby.kr/posts/891/24a26b4e-f97c-4316-90e5-de7560202331.gif" style="width: 100%;">초콜릿을 대체할 수 있다구?!!🥜 견과류영양분이 높을뿐더러 한참 성장하는 태아의 뇌 발달에 좋은 음식이라고 해요.&nbsp;🍪 무설탕 비스킷카페인, 당이 없는 무설탕 비스킷은 초콜릿의 좋은 대체 간식으로 조금만 먹어도 포만감을 느낄 수 있어요.🍶 탄산수다른 첨가물이 없는 순수한 탄산수는 입덧을 하는 임산부들에게 좋은 간식이 될 수 있어요. 특히 당이 당길 땐 탄산수에 매실을 타서 마시면 좋은 대체 간식이 될 수 있어요.&nbsp;임신 중에 먹고 싶은 것을 무조건 참는 게 좋은 것은 아니에요.😷 엄마가 스트레스받는 것 보다 적절한 양을 섭취하는 것이 더 건강에 좋다고 해요💪 초콜릿의 경우 여러 첨가물이 섞인 일반 초콜릿보다 다크 초콜릿이나 천연 카카오로 만들어진 것을 먹는 것이 좋다고 하니 확인하고 안전하게 드시길 바랄게요!🙆🏻&zwj;♀️<a href="https://billyapplication.page.link/?link=https://billyapplication.page.link/community&apn=kr.villagebaby.billyapplication&isi=1497301126&ibi=kr.villagebaby.billyapplication&ofl=https://babybilly.app"><img src="https://cdn.billyapi.com/new/froala/posts/94f7120a-06a4-4ca0-968d-005d3f6961a6.webp" class="fr-fic fr-dib"></a>

임신 중 초콜릿🍫 먹어도 되나요?

คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าในขณะตั้งครรภ์นั้นสามารถเต้นแอโรบิกได้หรือไม่ หรืออาจกังวลว่าการเต้นแอโรบิกดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์หรือเปล่า เราอยากให้คุณแม่คลายความกังวลใจได้เลย เพราะว่าวันนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเต้นแอโรบิกที่เหมาะสมในช่วงตั้งครรภ์มาให้คุณแม่เเล้วค่ะ<hr>แอโรบิกอย่างไรให้ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์&nbsp;<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3567/24db4363-559d-414e-a17c-df3cd4cee611.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มต้นออกกำลังกายหรือเต้นแอโรบิกนอกจากคุณแม่จะได้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ👩&zwj;⚕️และจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ที่สุดแล้วนั้น คุณแม่ยังจะรู้สึกคลายความกังวลและสบายใจมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งนอกจากเรื่องออกกำลังกายแล้ว คุณแม่ยังสามารถปรึกษาถึงเรื่องอื่นๆที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การรับประทานอาหาร คุณค่าทางโภชนาการ การพักผ่อน การรับประทานยา💊 เป็นต้นควรเลือกการเต้นแอโรบิกแบบที่มีเเรงกระแทกต่ำถ้าหากคุณแม่เป็นคนที่ออกกำลังกายโดยสม่ำเสมอ คุณแม่สามารถเต้นแอโรบิกที่มีความเข้มข้นสูงได้แต่หลีกเลี่ยงท่าทางที่ต้องใช้เเรงกระเเทกต่างๆ เนื่องจากหากคุณแม่เต้นแอโรบิกที่มีแรงกระเเทกสูงนั้นจะทำให้ข้อต่อและอุ้งเชิงกรานอ่อนแอเเละเสื่อมลงได้😔 ดังนั้น คุณแม่จึงไม่ควรเต้นแอโรบิกแบบที่มีเเรงกระแทกสูงนั่นเอง และถ้าหากคุณแม่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายนั้น เราขอแนะนำให้คุณแม่เริ่มต้นด้วยการออกกำลังกายแบบเบาๆอย่างเช่นการเดินก่อน🚶&zwj;♀️ หลังจากนั้นจึงค่อยๆสร้างความฟิตจากการเดิน แล้วค่อยหันมาเริ่มคลาสแอโรบิกแบบพื้นฐานค่ะ<hr>การเต้นแอโรบิกส่งผลดีอย่างไรต่อการตั้งครรภ์<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3567/f2b1dc58-7891-4610-a8d7-1c82bcd82957.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ผลดีทางด้านร่างกายเสริมสร้างหัวใจและปอดให้แข็งแรง ช่วยปรับกล้ามเนื้อของคุณแม่ให้เหมาะสมกับสภาพตั้งครรภ์ อีกทั้งยังช่วยลดอาการปวดเมื่อยที่เป็นอาการปกติในช่วงตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ยังทำให้คุณแม่นอนหลับ💤ได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วยผลดีทางด้านจิตใจหากคุณแม่ออกกำลังกายอย่างถูกวิธีและไม่หักโหมจนเกินไป ร่างกายของคุณแม่จะแข็งแรงขึ้นและสามารถรับสภาพการตั้งครรภ์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถ้าหากร่างกายแข็งเเรงแล้ว จะส่งผลกระทบต่อด้านจิตใจให้คิดบวก😊 ไม่เครียด เตรียมพร้อมรับมือกับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรมากยิ่งขึ้นอีกด้วย<hr>วิธีการเต้นแอโรบิกที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3567/ca099e0b-8d51-4457-b718-2008537ca251.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">การแอโรบิกแบบเดินการเดินเป็นการออกกำลังกายที่ง่ายที่สุดในช่วงตั้งครรภ์ ทั้งนี้คุณแม่ควรสวมรองเท้าที่ดีและใส่สบายขณะเดิน👟 โดยคุณแม่อาจจะชวนคนอื่นไปเดินเป็นเพื่อนด้วย หรือชวนสามีไปเดินเล่นด้วยกันก็ดี นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังนับเป็นกิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันกับคุณสามีได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากช่วงตั้งครรภ์แล้ว หลังจากคลอดบุตร การเดินก็ยังเป็นวิธีออกกำลังกายที่ดีเเละง่ายที่สุดสำหรับคุณแม่เช่นกัน❤️การออกกำลังกายแอโรบิกแบบพื้นฐานการแอโรบิกเป็นวิธีการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ เช่น คุณแม่อาจจะฝึกก้าวขึ้นเเละลงบันไดเบาๆ🚶&zwj;♀️ ซึ่งบันไดที่ใช้ควรสูงประมาณสี่นิ้ว กว้าง และออกแบบมาเเข็งเเรง โดยทำวันละครั้ง ครั้งละ 15 นาทีเป็นอย่างน้อย โดยให้พยายามรักษาสมดุลให้ดี การก้าวขึ้นลงบันไดเช่นนี้ก็นับเป็นการออกกำลังกายที่ดี หรือถ้าหากคุณแม่ไม่ชอบออกกำลังกายคนเดียว เราขอแนะนำคลาสออกกำลังกายที่จัดขึ้นสำหรับสตรีมีครรภ์ให้คุณแม่ได้ลอง คุณแม่จะได้รู้จักเพื่อนคุณแม่คนอื่นๆในคลาส อีกทั้งยังมีคุณครูคอยสอนและคอยให้คำแนะนำ และปรับการเรียนให้ตรงกับความต้องการของคุณแม่ได้อีกด้วย🤰การใช้อุปกรณ์เสริมการออกกำลังกายแบบใช้อุปกรณ์วงรีหรือลูกบอลยักษ์นั้นดีต่อการออกกำลังกายแบบแอโรบิกและคาร์ดิโอ อีกทั้งยังไม่ส่งผลกระทบต่อข้อต่ออีกด้วย ทั้งนี้คุณแม่ควรเริ่มต้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช้าๆ และค่อยๆเพิ่มเวลาออกกำลังทีละน้อยๆ โดยอุปกรณ์เสริมดังกล่าวคุณแม่สามารถหาซื้อได้ที่ห้างสรรพสินค้า🛒หรือศูนย์ออกกำลังกายนั่นเองการแอโรบิกด้วยเครื่องปั่นจักรยานการปั่นจักรยานอยู่กับที่หรือการออกกำลังกายด้วยเครื่องปั่นจักรยานนั้นเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ทุกเมื่อทุกเวลาโดยไม่ต้องสนใจสภาพอากาศภายนอก คุณแม่อาจจะปั่นจักรยานไปฟังเพลงไป หรือดูหนังเรื่องโปรดไปด้วยก็ได้ตามใจชอบ โดยคุณแม่ควรจะเริ่มปั่นช้าๆ🚲ก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มแรงต้านบนแป้นเหยียบทีละน้อยๆก็ได้การแอโรบิกในน้ำเนื่องจากน้ำมีเเรงต้านต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย สระว่ายน้ำจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสมและง่ายในการออกกำลังกายแบบแอโรบิก🤽&zwj;♀️ โดยคุณแม่อาจจะลองไปยืนตรงมุมสระแล้วยกแขนทั้งสองข้างให้ขนานไปกับผิวน้ำ หรือออกกำลังกายขาได้โดยการทำท่าขี่จักรยานในน้ำหรือจับขาสองข้างไว้ด้วยกันเเล้วทำท่านางเงือก หรือออกกำลังกายทั้งแขนเเละขาพร้อมกันโดยใช้ท่ากบ การออกกำลังกายในน้ำวันละประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมงจะช่วยส่งเสริมสุขภาพกายเเละสุขภาพจิตของคุณแม่ โดยการว่ายน้ำนั้นนับเป็นการออกกำลังกายที่แม่ๆชอบมากที่สุดในการตั้งครรภ์อีกด้วย💙

แอโรบิกแบบไหนปลอดภัยกับคุณแม่ตั้งครรภ์?

คุณผู้หญิงหลายๆท่านที่มีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติคงเคยสงสัยว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์หรือเปล่า? หรืออาจกังวลใจว่าอาการแบบนี้คืออาการของคนที่กำลังจะเป็นคุณแม่ป้ายแดงหรือเปล่านะ? วันนี้ทางเรามีคำตอบที่จะมาไขข้อข้องใจให้กับคุณผู้หญิงทั้งหลายถึงสาเหตุของประจำเดือนมาไม่ปกติ วิธีการตรวจสอบว่าเรากำลังตั้งครรภ์จริงหรือไม่ รวมถึงอาการในช่วงตั้งครรภ์ต่างๆด้วยค่ะ<hr>สาเหตุของประเดือนขาดหรือมาไม่ปกติ<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3569/117b8e05-e0b5-4e2a-a01f-7496349e27b8.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ความจริงแล้วการที่ประจำเดือนขาดไปนั้นสามารถมีสาเหตุได้จากหลากหลายปัจจัย ที่ไม่ได้แปลว่าเรากำลังตั้งครรภ์เพียงอย่างเดียว โดยสาเหตุที่ประจำเดือนเลื่อนหรือขาดไปนั้นมี ดังนี้ความเครียดหลายคนคงทราบดีอยู่เล้วว่าความเครียด😞นั้นส่งผลเสียต่อร่างกายเรามากเพียงใด ความเครียดไม่เพียงเเค่ส่งผลกระทบต่อด้านสุขภาพจิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายเรามากอีกด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเครียดนั้นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไปตั้งเเต่ 1 สัปดาห์จนถึง 2 เดือนเลยก็เป็นได้😨 เพราะฉะนั้นหากเราไม่ได้มีพฤติกรรมเสี่ยง อย่างการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันก็ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ เพราะสาเหตุอาจมาจากความเครียดของคุณแม่นั่นเองค่ะน้ำหนักตัวน้อยในผู้ที่มีน้ำหนักน้อย ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่ทำให้ตกไข่มากขึ้น ซึ่งภาวะที่ร่างกายตกไข่บ่อยขึ้นเช่นนี้ จะส่งผลให้ประจำเดือนขาดหรือเลื่อนออกไปได้📅น้ำหนักตัวที่มากในผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ร่างกายก็จะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมามากเช่นกัน ซึ่งภาวะที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไปเช่นนี้ อาจส่งผลทำให้ประจำเดือนขาด🩸หรือเลื่อนออกไปได้ เพราะฉะนั้นเราจึงพบว่าผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปนั้นจะมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติบ่อยกว่าผู้ที่มีน้ำหนักปกตินั่นเองเริ่มเข้าสู่วัยทองเมื่อเริ่มย่างเข้าสู่วัยทอง ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมนลดลง ทำให้ไข่ตกอย่างไม่สม่ำเสมอหรืออาจจะไม่ตกเลยก็ได้ ซึ่งภาวะเช่นนี้ทำให้ประจำเดือนขาดหรือมาไม่ปกติเหมือนเเต่ก่อนนั่นเองค่ะโรคถุงน้ำรังไข่ผิดปกติโรคถุงน้ำรังไข่เกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่ออันส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนและรังไข่ ซึ่งถ้าหากฮอร์โมนเเละรังไข่ทำงานผิดปกติแล้ว ร่างกายของเราก็จะมีฮอร์โมนเพศชายมากกว่าปกติ ประจำเดือนก็เลยมาไม่ปกติตามไปด้วยเช่นกัน โดยโรคถุงน้ำรังไข่ผิดปกตินี้พบได้ในผู้หญิง👩 ช่วงอายุระหว่าง 18-45 ปี นั่นเอง<hr>ตรวจครรภ์อย่างไรให้ได้ผลชัวร์<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3569/f5d52ded-4dd2-4fd3-aac3-577a3c9f08ce.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">การตรวจครรภ์ที่จะได้ผลแน่นอนที่สุดควรทำหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไป 14-20 วัน ซึ่งบางคนตรวจเจอหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไป 5-7 วัน แต่จะขึ้นขีดจางและอ่อนมากๆเนื่องจากอายุครรภ์ยังน้อยนั่นเอง ซึ่งการตรวจครรภ์นั้นสามารถทำได้ 2วิธี ดังนี้ตรวจจากปัสสาวะวิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายเเละสะดวกมาก🚽 เนื่องจากสามารถทำเองได้ที่บ้าน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจก็หาซื้อได้ทั่วไป ผู้หญิงหลายท่านจึงนิยมใช้วิธีนี้กันมากในปัจจุบันตรวจจากเลือดวิธีนี้ไมค่อยแพร่หลายเเละเป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากไม่สามารถทำได้ด้วยตนเอง จะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อเจาะเลือดตรวจเท่านั้น🩸<hr>สัญญาณที่บอกว่าเรากำลังจะเป็นคุณแม่ป้ายแดง<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3569/6a7d71ee-6d58-477f-82d0-c44f76d66a42.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">อารมณ์แปรปรวนเนื่องจากร่างกายกำลังปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ทำให้ส่งผลต่ออารมณ์เป็นอย่างมากจึงอาจอ่อนไหวง่าย หงุดหงิดหรือโกรธบ่อยมากขึ้น😡คลื่นไส้เเละอาเจียนปกติอาการคลื่นไส้อาเจียน🤮จะเกิดขึ้นหลังจากมีการปฎิสนธิในร่างกายไปแล้วหนึ่งเดือน แต่ไม่ใช่ว่าคุณแม่ทุกคนจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนดังกล่าว บางคนอาจไม่มีอาการเหล่านี้เลยก็เป็นได้ประจำเดือนขาดหากเราเป็นคนประจำเดือนมาปกติสม่ำเสมออยู่ตลอด📅 แต่อยู่ดีๆประจำเดือนก็ขาดหายไป นี่อาจเป็นสัญญาณพื้นฐานที่บ่งบอกได้ว่าเรากำลังตั้งครรภ์ก็เป็นได้คัดเต้านมอาการคัดเต้านมนี้เกิดจากเลือด🩸 ไปหล่อเลี้ยงบริเวณเต้านมมากขึ้นจนมีอาการบวม ตึง และยังไวต่อความรู้สึกคล้ายๆช่วงมีประจำเดือนนั่นเองปัสสาวะบ่อยในช่วงตั้งครรภ์ ร่างกายจะผลิตเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆมากขึ้น ทำให้ไตทำงานหนักและมีการขับของเสียออกจากร่างกายมากขึ้น เราจึงปัสสาวะบ่อยกว่าปกตินั่นเอง🚽&nbsp;อาการท้องผูกเกิดจากการที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ช้าลง อีกทั้งในช่วงตั้งครรภ์มดลูกจะขยายตัวมากขึ้น ทำให้ไปกดทับลำไส้อันก่อให้เกิดอาการท้องผูกนั่นเอง😔

อาการแบบนี้ตั้งครรภ์หรือเปล่า?

คุณพ่อหลายๆท่านคงจะรู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อทราบว่าภรรยากำลังตั้งครรภ์ หรือกำลังอยู่ในช่วงของการเตรียมตัวตั้งครรภ์ ซึ่งความจริงแล้วไม่ใช่เพียงคุณแม่ที่ต้องเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์เท่านั้น คุณพ่อเองก็สามารถเตรียมตัวเป็นคุณพ่อได้เช่นกัน! ในวันนี้บิลลี่จะแนะนำวิธีเตรียมเป็นคุณพ่อกันค่ะ&nbsp;<hr>เตรียมตัวให้พร้อมก่อนภรรยาตั้งครรภ์<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3584/26ae8868-08d2-42bc-a3aa-4eb4e1122e34.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">หาความรู้จากแหล่งต่างๆ&nbsp;การตั้งครรภ์นั้นจะใช้เวลานานถึง 9 เดือน และแม้ว่าคุณพ่อจะไม่ใช่คนที่อุ้มท้อง แต่คุณ👨ก็สามารถมีประสบการณ์ร่วมกับการตั้งครรภ์และการให้กำเนิดลูกน้อยได้เช่นกัน ดังนั้นการที่คุณพ่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกับอาการต่างๆของคุณแม่🤰 ไม่ว่าจะเป็น อาการแพ้ท้อง อาการท้องอืด หรืออาการอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นกับคุณแม่ได้ คุณพ่อก็จะสามารถอยู่ข้างๆ และคอยช่วยเหลือคุณแม่ให้ผ่านความลำบากต่างๆไปได้&nbsp;สุขภาพของคุณพ่อเป็นสิ่งสำคัญคุณพ่อควรดูแลร่างกายตนเองให้แข็งแรงโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ🏃&zwj;♂️ เพื่อที่จะได้มีกำลังพร้อมดูแลภรรยาและเจ้าตัวน้อยที่จะเกิดมาในไม่ช้า และหากคุณพ่อยังดื่มหรือสูบบุหรี่🚬อยู่ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่คุณพ่อจะเปลี่ยนแปลงตนเอง เพราะควันบุหรี่นั้นสามารถทำให้หัวใจของทารกมีความผิดปกติ และอาจกระทบต่อร่างกายของทารก รวมถึงภรรยาสุดที่รักของคุณพ่อได้เช่นกันค่ะ😔<hr>สื่อสารกับคู่ชีวิตของคุณ<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3584/7d5027ba-2efe-4b42-905b-dc57790029dd.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">พูดคุยกับภรรยาการจัดสรรเวลาเพื่อพูดคุยกับว่าที่คุณแม่ในการวางแผนก่อนการตั้งครรภ์📅 ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการที่จะให้คุณแม่ทำงานไปพร้อมตั้งครรภ์ หรือลาออกจากงานมาดูแลลูกเต็มตัว การให้นม การจัดที่นอนให้ลูก รวมถึงการตกลงเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก แม้คุณพ่ออาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่การพูดคุยกันล่วงหน้าก็เป็นสิ่งจำเป็นและไม่ควรมองข้ามนะคะพูดคุยกับเพื่อนๆที่เป็นคุณพ่อ🧑&zwj;🤝&zwj;🧑คุณสามารถพูดคุยกับคุณพ่อท่านอื่นๆที่อยู่ในกลุ่มเพื่อน เพื่อสอบถามประสบการณ์และเคล็ดลับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงที่คุณภรรยาตั้งครรภ์ หลังคลอด หรือการเลี้ยงลูก คุณพ่อก็จะได้ไอเดียผ่านการพูดคุยได้บ้าง<hr>พยายามมีส่วนร่วมกับคุณภรรยา<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3584/7d2ffd2a-c3b6-4bd0-b5d9-209dc3b3f2ea.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ไปพบคุณพ่อกับภรรยาทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นตอนไปตรวจครรภ์ หรือวันคลอด หากคุณพ่อสามารถไปกับภรรยาได้ คุณพ่อก็จะได้รับรู้การเจริญเติบโตของลูกน้อย และร่างกายของคุณแม่ ทำให้เข้าใจและกันมากขึ้น รวมถึงหากมีคำถามอะไรก็สามารถถามคุณหมอ🩺ไปพร้อมๆกันได้เลยฉลองวันสำคัญไปด้วยกัน&nbsp;ช่วงนี้คุณแม่มักนิยมฉลอง Baby Shower🎉 ไปด้วยกัน ซึ่งเป็นช่วงที่มักจะเปิดเผยเพศของลูกน้อยให้เพื่อนๆ และญาติๆให้ทราบอีกด้วย ซึ่งคุณพ่อก็ควรจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ รวมถึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำไปพร้อมๆกันได้อีกด้วยเป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการเตรียมตัวต่างๆที่นำมาฝากกันในวันนี้ บิลลี่ก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคน เชื่อว่าหากได้พูดคุยและทำความเข้าใจกันและกันก็จะสามารถผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอนค่ะ&nbsp;

เตรียมตัวก่อนภรรยาตั้งครรภ์ (ฉบับคุณพ่อ)

คุณพ่อคุณแม่ท่านใดกำลังวางแผนจะมีลูกคนที่ 2 หลังจากเพิ่งคลอดลูกคนแรกไปหรือเปล่าคะ? ณ จุดนี้ หลายท่านคงจะเกิดความสงสัยว่า แล้วเราควรจะเว้นห่างหลังคลอดนานแค่ไหนจึงจะตั้งครรภ์ใหม่ได้นะ? ซึ่งวันนี้ Baby Billy จะมาช่วยไขข้อข้องใจกันแล้วค่ะ&nbsp;<hr>สิ่งที่ต้องคำนึงก่อนการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3592/0474645a-b4f0-456e-b663-63f7b8d6567f.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ตกลงกับสามี👨แน่นอนว่าการจะวางแผนมีน้องคนที่ 2 ก็จะต้องพูดคุยกับสามีให้เข้าใจตรงกันก่อนเพราะการมีลูกก็จำเป็นจะต้องให้ความร่วมมือของกันและกันด้วยเวลาว่างในการไปฝากครรภ์เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ การฝากครรภ์ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ดังนั้นหากคุณแม่อยากจะมีลูกคนที่ 2 ก็ต้องดูด้วยว่าคุณแม่จะมีเวลา⌚ไปฝากครรภ์และไม่พลาดนัดของคุณหมอหรือไม่ค่ะปัจจัยด้านอายุของหากคุณแม่มีอายุน้อยกว่า 35 ปีก็ไม่ต้องกังวลมากแต่หากมากกว่า 35 ปี คุณแม่จะต้องไปตรวจสุขภาพเพื่อดูความพร้อมของร่างกายว่าจะสามารถตั้งครรภ์ลูกคนถัดไปได้หรือไม่นั่นเองค่ะ&nbsp;ปัจจัยด้านแผลผ่าตัดคุณแม่ท่านใดที่ผ่านการผ่าตัดคลอดก็จะต้องคำนึงถึง🤔แผลที่ผ่าตัดด้วย ซึ่งคุณแม่อาจต้องรออย่างน้อย 2 ปีเพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและให้แผลหายสนิทก่อนจะดีที่สุดค่ะ&nbsp;<hr>มีลูกติดกันเกินไปมีความเสี่ยง<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3592/def7f616-1c82-4cf9-80fa-9d49a9edf8dc.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">มีลูกหัวปีท้ายปี คืออะไร?คุณแม่ที่มีลูกหัวปีท้ายปี คือ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ภายใน 2-6 เดือนหลังจากที่คลอดลูก ซึ่งอาจเกิดจากความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เนื่องจากหลังคลอดลูกได้ไม่นานประจำเดือนที่กลับมาเป็นปกติอาจทำให้ตั้งครรภ์โดยที่ไม่ทันตั้งตัว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วควรจะตั้งครรภ์ห่างกันอย่างน้อย 2 ปี เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาพักและฟื้นฟูเพื่อให้พร้อมกับการตั้งครรภ์ต่อไป🤰ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้คุณแม่ที่มีลูกไวเกินไปภายใน 2-6 เดือน มีความเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดได้ เพราะร่างกายยังฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ โดยบางรายอาจเกิดการฉีดขาดของช่องคลอด หรือ คุณแม่อาจเหนื่อยง่ายกว่าเดิมหลายเท่า โดยเฉพาะคุณแม่ที่ยังให้นมลูกคนโตอยู่🍼รวมถึงยังเสี่ยงในการขาดสารอาหาร โดยลูกคนที่สองอาจมีน้ำหนักน้อยกว่าปกติ นั่นเป็นเพราะว่าร่างกายยังไม่ฟื้นฟูจากการคลอดลูกคนแรก และไม่สามารถเสริมสร้างอาหารให้กับลูกที่อยู่ในครรภ์ได้ ดังนั้นคุณแม่จึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์ขณะตั้งครรภ์👩&zwj;⚕️<hr>ต้องดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อตั้งครรภ์ห่างกันน้อย<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3592/bffe31b7-9d66-4c44-b578-57cf57901dd7.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ดูแลสุขภาพจิตให้ดีนอกจากสุขภาพร่างกายแล้ว ฮอร์โมรที่มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างการมีน้องคนที่ 2 อาจทำให้คุณแม่อารมณ์แปรปรวนหงุดหงิด เหนื่อยล้า โมโหง่าย รวมถึงอาจเกิดอาการซึมเศร้าในบางรายได้ ดังนั้น คุณแม่สามารถดูหนัง ฟังเพลง พักผ่อนหย่อนใจเพื่อให้มีความสุขและมีสุขภาพจิตที่ดีค่ะ😀เติมสารอาหารให้กับร่างกายคุณแม่ควรเร่งเติมสารอาหารให้กับร่างกายเพื่อให้ลูกที่สองได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่ โดยการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ทานยาบำรุงที่คุณหมอให้มาอย่างสม่ำเสมอ และลดอาหารประเภทแป้ง🍞และไขมันใส่ใจเรื่องน้ำหนักในบางรายที่ยุ่งกับการเลี้ยงลูกคนแรกจนไม่มีเวลาทานข้าวอาจทำให้ลูกในครรภ์ได้รับสารอาหารไม่ครบหมู่ หรือบางท่านก็อาจมีน้ำหนักไม่เข้าที่หลังจากคลอดลูกคนแรก จึงมีความเป็นไปได้ที่คุณแม่จะรู้สึกเหนื่อยง่ายนั่นเองค่ะ💦

อยากมีลูกคนที่ 2 ควรเว้นจากคนแรกแค่ไหน?

지금 12주 3일차인데 처음으로 갈색분비물이 나왔어요;;괜찮은 걸까요??

임신 12주 갈색분비물

전 아직도 나오고 있어요 초기부터 12주차까지도 간간히요 흑 ㅠㅎㅎ

저는 일주일넘게 갈색찌꺼기 나와서 병원 검진때 봐달랫더니
자궁경부에 용종 잇더라구요! 그럼 계속 출혈생기고 갈색으로 나온다구... 바로 제거햇어요 ! 
저 같은 경우도 있으니 혹시라도 자궁경부 봐달라구해보셔용!

คุณแม่ตั้งครรภ์ควรคอยสังเกตอาการของตัวเองให้ดีๆว่าตัวเองแข็งเเรงดีมั้ย มีอาการผิดปกติอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า เนื่องจากคุณแม่ไม่ได้ตัวคนเดียวเเล้ว ยังมีทารกในครรภ์อีก1ชีวิตที่คุณแม่ต้องคอยดูเเลให้ดี วันนี้เรามีคำแนะนำในการสังเกตอาการตัวเองว่าอาการแบบไหนที่อาจจะเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณแม่มือใหม่ต้องหมั่นคอยสังเกตเเละเตรียมพร้อมรับมือให้ดีมาฝากกันค่ะ<hr>อาการไม่น่าพึงประสงค์ที่คุณแม่ควรคอยสังเกต<img src="https://cdn.billyapi.com/new/froala/posts/b31da3e2-d1c5-4b21-8a8e-5fd9a4c6cd35.webp" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">อาการแพ้ท้องมากจนผิดปกติเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ทุกคนจะเกิดอาการแพ้ท้องในขณะตั้งครรภ์ เนื่องจากการแพ้ท้องเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย📈 ซึ่งอาการที่สังเกตได้ง่ายๆ คือ คลื่นไส้ อาเจียน พะอืดพะอม เบื่ออาหาร เหม็นอาหาร ฯลฯ ถ้าหากมีอาการลักษณะนี้ แต่ว่ายังรับประทานอาหารพอได้ก็ถือว่าเป็นอาการที่ค่อนข้างปกติ ไม่น่าเป็นห่วงอะไร แต่ถ้าหากอายุครรภ์เกิน 14 สัปดาห์ขึ้นไปแล้วยังมีอาการผิดปกติ อาทิ คลื่นไส้ อาเจียนมากจนกินอาหารไม่ได้ น้ำหนักลด มีอาการขาดสารอาหาร ขาดน้ำ ใจสั่น ปัสสาวะออกน้อย พวกนี้ถือว่าเป็นอาการผิดปกติ ต้องรีบมาพบแพทย์โดยด่วน👩&zwj;⚕️อาการเลือดออก🩸อาการเลือดออกนั้นมีสาเหตุได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ติดเชื้อในช่องคลอด ติดเชื้อในปากมดลูก มีภาวะรกเกาะต่ำ หรือมีภาวะการเจ็บครรภ์คลอด เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดภาวะเลือดออกทางช่องคลอดได้ สิ่งที่คุณเเม่ควรทำก็คือ หากพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอดไม่ว่าจะตอนไหนก็ตาม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ซึ่งถ้าทราบรู้สาเหตุแล้วก็จะทราบถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั่นเองลูกน้อยในครรภ์ดิ้นผิดปกติอย่างที่คุณแม่ทุกท่านทราบดีกันอยู่เเล้วว่าปกติทารก🏥ในครรภ์จะเริ่มดิ้นเมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์หรือ 5เดือนขึ้นไป และเมื่อถึง 28 สัปดาห์จะยิ่งรู้สึกถึงเเรงดิ้นของลูกน้อยมากขึ้น ซึ่งอาจจะรู้สึกเป็นแรงเตะ แรงถีบ หรือแรงขยับของแขนขา โดยทั่วไปหมอมักจะเเนะนำให้นับจำนวนครั้งที่ลูกน้อยดิ้นเพื่อเป็นการประเมินสุขภาพของทารกในครรภ์อย่างหนึ่ง หากวันไหนคุณแม่รู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลงหรือว่ายังไม่ดิ้นเลย ก็เป็นอีกหนึ่งอาการที่ไม่ควรนิ่งนอนใจเเละควรจะไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุว่ามีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้นกับทารกในครรภ์หรือเปล่า🤰<hr>อาการไม่น่าพึงประสงค์ที่คุณแม่ควรคอยสังเกต<img src="https://cdn.billyapi.com/new/froala/posts/58c220d9-78f5-4a6b-959f-a66be4b0bfc8.webp" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">อาการเจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดโดยปกติแล้วคุณเเม่ใกล้คลอดในช่วงปลายไตรมาสที่ 2 หรือในช่วงไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์จะมีโอกาสเจ็บครรภ์คลอด🤰 ซึ่งในกรณีที่อายุครรภ์ยังไม่ครบกำหนดแล้วเข้าสู่กระบวนการคลอดเร็วกว่าปกติ หากเรานิ่งนอนใจไม่ทำอะไรเเละปล่อยให้กระบวนการคลอดดำเนินไปเรื่อยๆ ผลเสียจะไปตกอยู่ที่ทารก ซึ่งผลเสียดังกล่าวนี้ก็คือการคลอดก่อนกำหนดซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาทารกน้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ในที่สุด ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีอาการเจ็บครรภ์คลอดเกิดขึ้น โดยคุณแม่อาจจะรู้สึกว่าอาการดังกล่าวนี้ถี่ขึ้นหรือรู้สึกว่าผิดปกติมากขึ้น หากเป็นเช่นนี้คุณเเม่ต้องรีบมาโรงพยาบาล🏥เพื่อเข้ารับการตรวจดูว่าการบีบตัวของมดลูกนั้นสม่ำเสมอมากน้อยขนาดไหน รวมถึงควรตรวจภายในเพื่อประเมินดูการเปิดของปากมดลูกร่วมด้วยมีอาการน้ำเดินหรือน้ำคร่ำแตกก่อนอื่นเราควรมาทำความรู้จักกับอาการน้ำเดินหรือน้ำคร่ำแตกกันก่อน อาการน้ำเดิน หมายถึง การที่คุณแม่มีน้ำคร่ำไหลออกมาจากช่องคลอด หรือพูดง่ายๆคือมีการแตกของถุงน้ำคร่ำ ซึ่งโดยทั่วไปการที่น้ำเดินนี้จะทำให้เข้าสู่กระบวนการคลอดได้เร็วเเละง่ายขึ้น👶 ถ้าหากมีอาการน้ำเดินในช่วงที่อายุครรภ์ครบกำหนดแล้วแสดงว่าร่างกายของเราเริ่มเข้าสู่กระบวนการคลอดเเละพร้อมที่จะคลอดเล้ว ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีน้ำคร่ำเดินหรือมีน้ำใส ๆไหลออกมาจากช่องคลอด คุณเเม่จะต้องรีบเข้าไปตรวจดูที่โรงพยาบาล🏥 ทันทีเนื่องจากอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าคุณเเม่กำลังเริ่มเข้าสู่กระบวนการคลอดแล้วนอกจากนี้ ผู้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนควรที่จะสังเกตอาการอื่นๆนอกจากอาการเจ็บท้องหรืออาการน้ำเดิน เพราะอาจจะเป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ก็เป็นได้ ซึ่งโดยทั่วไปคืออาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงอาการครรภ์เป็นพิษนั่นเอง โดยถ้าหากคุณเเม่ท่านใดมีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว😵 หรือจุกแน่นลิ้นปี่ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจเเล้วรีบมาพบแพทย์ทันทีเพื่อดูว่ามีอาการครรภ์เป็นพิษแทรกซ้อนหรือเปล่า<hr>ประเภทของอาการเจ็บครรภ์<img src="https://cdn.billyapi.com/new/froala/posts/9bdf7e84-5075-4373-8208-d57c42d9562b.webp" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">การเจ็บครรภ์เตือน&nbsp;อาการเจ็บครรภ์เตือนเป็นเรื่องปกติที่คุณเเม่เกือบทุกคนจะต้องเคยพบเจอ โดยคุณเเม่จะรู้สึกว่าตัวเองท้องแข็งขึ้นกว่าปกติ แต่มักจะไม่เป็นสม่ำเสมอ🤰 โดยอาการเหล่านี้จะสัมพันธ์กับการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน การเดินหรือยืนนาน ๆ ซึ่งมีผลไปกระตุ้นให้มีอาการเจ็บครรภ์ได้บ้าง โดยจะหายไปตามธรรมชาติเมื่อคุณเเม่ได้พักผ่อนนั่นเองอาการเจ็บครรภ์เเบบสม่ำเสมอ&nbsp;หากคุณเเม่เริ่มเจ็บครรภ์บ่อยขึ้น ถี่ขึ้น ปวดมากขึ้น หรือรุนแรงมากขึ้น คุณเเม่ไม่ควรนิ่งนอนใจเพราะอาการเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณว่าคุณเเม่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการคลอดได้ อีกทั้งอาการเล่านี้มักพบพร้อมกับอาการเปิดของปากมดลูกร่วมด้วย ดังนั้นหากคุณเเม่ยังมีอายุครรภ์ไม่ครบกำหนดคลอดเเล้วประสบกับอาการเจ็บครรภ์ดังกล่าว คุณเเม่ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการตรวจภายในและหาสาเหตุของอาการปวดต่อไป👨&zwj;⚕️

ไปโรงพยาบาลเมื่อมีสัญญาณเหล่านี้ระหว่างตั้งครรภ์!

อาการปวดซี่โครงเป็นอาการปกติที่พบได้ในคุณแม่ที่ท้องเริ่มโตขึ้น หรือช่วงท้องเริ่มแก่ เนื่องจากคุณแม่ต้องแบกรับน้ำหนักตัวของลูกน้อยที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น น้ำคร่ำที่อยู่ในครรภ์ และมดลูกที่ขยายตัวจนกดทับบริเวณกระดูกซี่โครงนั่นเอง วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดซี่โครงและวิธีการบรรเทาอาการดังกล่าวค่ะ<hr>ทำไมคุณแม่ถึงรู้สึกปวดซี่โครง?<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3612/06a166ad-2d50-44b8-9d9e-122333e444d6.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงการตั้งครรภ์ทำให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะฮอร์โมน Relaxin ที่จะผลิตมากขึ้นเป็นพิเศษในช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสสุดท้าย ฮอร์โมนชนิดนี้จะช่วยทำให้ข้อต่อกระดูกเเละเส้นเอ็นอ่อนตัวและยืดมากขึ้น ทำให้คลอดลูกได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ซึ่งเมื่อท้องมีความยืดตัวมากขึ้นก็จะไปเบียดเบียนอวัยวะส่วนอื่นๆส่งผลให้คุณแม่ปวดซี่โครงนั่นเองค่ะ🤰มดลูกเกิดการขยายตัวเมื่อทารกในครรภ์เติบโตขึ้น ร่างกายของทารกก็จะขยายใหญ่ขึ้น ส่งผลทำให้มดลูกขยายตัวตามไปด้วยจนไปกดทับชายโครงของคุณแม่ คุณแม่จึงรู้สึกเจ็บบริเวณซี่โครงนั่นเอง แต่อาการเจ็บดังกล่าวไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เพียงแต่อาจจะเจ็บมากหรือเจ็บน้อยเท่านั้น ขึ้นอยู่กับความเเข็งเเรงของคุณแม่แต่ละท่านนั่นเอง💪<hr>วิธีป้องกันอาการเจ็บซี่โครงของคุณแม่ท้องแก่<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3612/1908e121-7b9e-46e1-8215-d5f739d788c3.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าอาการเจ็บซี่โครงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับคุณแม่ทุกๆคน แต่ขึ้นอยู่กับอิริยาบถหรือกิจกรรมในแต่ละวันที่คุณแม่ทำ ซึ่งอาการนี้มักเกิดในคุณแม่ท้องแก่หรือคุณแม่ที่มีอายุครรภ์ตั้งเเต่6เดือนขึ้นไป ซึ่งวันนี้เรามีวิธีป้องกันอาการเจ็บซี่โครงที่อยากนำมาแนะนำให้คุณแม่ได้ลองทำตามกันดูค่ะหลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอิริยาบถเร็วเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณแม่อาจจะลืมตัวเพราะก่อนตั้งครรภ์เคยชินกับการเคลื่อนไหวร่างกายหรือเปลี่ยนท่าทางเร็วๆ แต่ถ้าหากกลายเป็นคุณแม่แล้วจะต้องอย่าเผลอเปลี่ยนอิริยาบถเร็วๆเป็นอันขาด และพยายามเคลื่อนไหวร่างกายให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้ เช่น เวลาจะลุกจากเก้าอี้🪑แล้วลุกขึ้นยืนนั้น คุณแม่ควรเอียงตัวเล็กน้อยเพื่อเอามือยันเก้าอี้หรือโต๊ะตรงหน้าก่อน จากนั้นจึงค่อยๆออกแรงถีบเท้าดันตัวเองขึ้นมา เป็นต้นอย่าเดินเร็วจนเกินไปในขณะตั้งครรภ์ไม่ว่าจะช่วงท้องอ่อนหรือท้องแก่ คุณแม่ควรเดินช้าๆค่อยๆและควรก้าวเท้า🚶&zwj;♀️อย่างพอดี ไม่ยาวหรือสั้นจนเกินไป เพราะถ้าหากก้าวเท้าไม่พอดี อาจจะทำให้คุณแม่หกล้มและเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้เลือกชุดชั้นในที่พอดีเเละใส่สบายคุณแม่ควรวัดขนาดหน้าอกตนเองทุกเดือน เพราะเสื้อชั้นในไม่ควรไปดึงรั้งหรือกดทับบริเวณชายโครง โดยเฉพาะช่วงท้องใหญ่ คุณแม่ควรเลือกสวมบราที่ไม่มีโครงเลย เเละควรเลือกสวมเสื้อชั้นในเเบบสบายๆดีที่สุด ส่วนกางเกงใน🩲นั้นก็ควรเลือกสวมแบบพอดีตัว ใส่สบาย จะได้ไม่อึดอัดค่ะควรนั่งและยืนหลังตรงการนั่งหลังตรง💺จะช่วยทำให้มดลูกไม่ไปกดทับชายโครง ส่งผลให้คุณแม่เจ็บซี่โครงน้อยลงได้ หรือคุณแม่อาจจะลองหาหมอนมาหนุนหลังจะช่วยให้นั่งพิงได้สบายมากยิ่งขึ้น ส่วนเวลายืนก็ควรพยายามยืนหลังตรง ไม่ห่อหรือยกไหล่ เนื่องจากการจัดสรีสระตนเองให้ตรงจะช่วยลดอาการปวดซี่โครงได้ค่ะหากเจ็บท้องต้องพักร่างกายทันที อย่าหักโหมถ้าหากคุณแม่มีอาการเจ็บท้องแม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยควรรีบพักร่างกายทันที ห้ามคิดว่าเจ็บนิดเดียวไม่เป็นไร เพราะนี่อาจส่งผลร้ายเเรงทำให้ถึงขั้นแท้งเลยทีเดียว ควรนอนพัก🛏️ อย่าขยับตัวมาก อาจหาหมอนมารองบริเวณใต้ท้องเอาไว้ด้วยก็ได้<hr>ชวนคุณแม่ท้องแก่บริหารร่างกาย<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3612/3331d1bd-f9b8-40f5-90fb-ce7f78cdd187.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">แม้ว่าจะเตือนคุณแม่ว่าไม่ควรขยับร่างกายมากนัก แต่การออกกำลังกายเล็กๆน้อยๆอย่างถูกวิธีก็เป็นเรื่องที่สำคัญเเละจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ท้องแก่หรือคุณแม่ไตรมาสสุดท้าย โดยวิธีบริหารร่างกายที่อยากจะเเนะนำให้คุณแม่ได้ลองทำมีดังนี้โยคะท่าเเมวและวัว (Cat and Cow Pose)การบริหารโยคะท่านี้จะช่วยบริหารหลังส่วนล่างหรือบริเวณกระดูกเชิงกราน เรียกสั้นๆง่ายๆว่า ท่าโยคะเเมว โดยเริ่มจากคุกเข่าก่อน จากนั้นเเยกเข่าทั้งสองข้างห่างออกจากกันพร้อมวางมือราบเเนบพอดีช่วงไหล่หรือช่วงตัว เงยศีรษะขึ้น เชิดคาง แอ่นหลัง และหายใจเข้า-ออกช้าๆโดยนับ1-5ในใจ &nbsp;จากนั้นค่อยๆหายใจออกพร้อมกับเก็บคางชิดกับหน้าอก แอ่นอกขึ้น ค้างท่าไว้สักพัก แล้วจึงกลับไปทำซ้ำประมาณ 3-5รอบ ควรทำสม่ำเสมอในตอนเช้าทุกๆวัน🌞ท่าออกกำลังกายยืดตัวการบริการบืดตัวนี้ควรทำหลังจากบริหารโยคะท่าแมวเสร็จเเล้ว โดยอาจจะต้องขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อร่วมด้วย เริ่มจากคุณแม่ค่อยๆนั่งขัดสมาธิลงบนพื้นสบายๆ วางขาลงเท่าที่จะทำได้ จากนั้นนั่งหลังตรง ชูแขนขึ้นเหนือศีรษะแล้วทำท่าพนมมือไว้พร้อมสูดลมหายใจเข้า-ออกลึกๆ แล้วให้คุณพ่อค่อยๆดึงแขนคุณแม่ขึนเเละลงช้าๆ ทำซ้ำแบบนี้ไปประมาณ10รอบ ขอเน้นย้ำว่าต้องทำช้าๆ ห้ามเผลอทำเร็วเด็ดขาดนะคะ🙅&zwj;♀️

คุณแม่รู้สึกเจ็บหรือปวดซี่โครงอยู่หรือเปล่าคะ?

เป็นที่ทราบกันดีว่า ช่วงตั้งครรภ์นั้นร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมาย เช่น คุณแม่จะต้องเเบ่งแคลเซียมในร่างกายไปให้ลูกน้อยในครรภ์ ทำให้แคลเซียมในร่างกายของคุณแม่ลดน้อยลง กระดูกของคุณแม่จึงอ่อนแอลงตามไปด้วย วันนี้ทางเราจึงมีวิธีช่วยลดความเสี่ยงกระดูกหักในช่วงตั้งครรภ์นำมาบอกต่อให้คุณแม่ได้ทำตามกันค่ะ<hr>วิธีช่วยลดความเสี่ยงกระดูกหักในช่วงตั้งครรภ์ในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรระมัดระวังและดูแลตัวเองให้ดีเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดอาการกระดูกแตกหรือหักได้ โดยมีวิธีปฏิบัติดังนี้<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3617/bdf16fae-2968-49f9-8dd7-6ad67b2ac8f1.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ออกกำลังกายเบาๆหลายคนอาจคิดว่าในช่วงตั้งครรภ์นั้นไม่ควรออกกำลังกาย แต่ความจริงเเล้วการออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดีเเละสำคัญมาก โดยคุณแม่อาจจะไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆหรือเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วได้เหมือนคนทั่วไป แต่สามารถออกกำลังกายเบาๆเล็กๆน้อยเพื่อเป็นการเสริมสร้างความเเข็งเเรงของกระดูกได้ เช่น เดินในบ้าน🚶&zwj;♀️ ขยับเเขน-ขา ยืดเส้นยืดสาย รำมวยไทย ยกเวทเบาๆ เป็นต้นรับประทานอาหารที่มีวิตามินดี เเละเเคลเซียมเยอะๆการรับประทานอาหารที่มีสารอาหารที่มีประโยชน์นั้นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกับผู้ที่ตั้งครรภ์ด้วย โดยคุณเเม่ควรจะเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความเเข็งเเรงของกระดูกมากๆ อาทิ เนื้อปลาซาร์ดีน บล็อคโคลี่ นมที่มีไขมันต่ำ🥛 โยเกิร์ต ฯลฯระมัดระวังในการรับประทานยาในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายจะอ่อนแอกว่าช่วงปกติ โดยเฉพาะหากรับประทานยาที่มีผลข้างเคียงหรือมีสารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่เป็นมิตรต่อลูกน้อยในครรภ์ก็อาจจะเป็นอันตรายได้ ดังนั้น ก่อนที่คุณแม่จะรับประทานยาตัวใด คุณแม่ควรจะศึกษาผลข้างเคียงของยา💊หรือปรึกษาแพทย์ก่อนทานยาทุกครั้ง เพื่อที่คุณแม่จะได้รับคำแนะนำในการรับประทานยาอย่างถูกต้องเหมาะสมและปลอดภัยงดแอลกอฮอล์และหลีกเลี่ยงกลิ่นบุหรี่แอกกอฮอล์และบุหรี่เป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกลิ่นบุหรี่นั้นมีสารที่ทำให้ทารกในครรภ์พิการแต่กำเนิด อีกทั้งยังทำให้ครรภ์เป็นพิษได้อีกด้วย ดังนั้น คุณแม่ควรงดแอลกอฮอล์ทุกชนิด งดสูบบุหรี่🚬เด็ดขาด อีกทั้งยังต้องหลีกเลี่ยงและอยู่ให้ห่างจากกลิ่นบุหรี่อีกด้วยดูแลสุขภาพตาให้ดีหากคุณแม่สายตาไม่ปกติ ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น ยาวหรือเอียง หรือมีสายตาพร่ามัว มองเห็นไม่ค่อยชัด คุณแม่ควรหาแว่นตามาใส่ให้เหมาะสมกับสภาพสายตา👀ของตนเอง เนื่องจากหากคุณแม่มองเห็นไม่ชัดแล้วฝืนทำกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันก็อาจก่อให้เกิดเกิดอุบัติเหตุลื่นล้มอันเป็นอันตรายต่อทั้งตัวคุณแม่เองแและลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วยตรวจสอบของใช้ในบ้านของใช้ในบ้านบางอย่างอาจไม่เหมาะสมกับสตรีในช่วงตั้งครรภ์ได้ อาทิ พรมเช็ดเท้า สายไฟ หรือสิ่งของที่วางระเกะระกะอยู่บนพื้นบ้านต่างๆ เนื่องจากคุณแม่อาจจะสะดุดล้มจนทำให้กระดูกแตก🦴หรือหักเป็นอันตรายได้ ดังนั้นในช่วงตั้งครรภ์เราควรเก็บสิ่งของดังกล่าวที่อาจจะเป็นอันตรายนี้ออกไปให้พ้นตัวคุณแม่ และคอยดูแลทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอไม่ให้มีสิ่งของรกเกะกะบนทางเดินเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่นั่นเองสวมใส่รองเท้าที่ไม่ลื่น งดสวมรองเท้าส้นสูงคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่ใส่เเล้วลื่นได้ง่าย เช่น รองเท้าใส่ในบ้าน หรือรองเท้าที่มีดอกยางน้อย เพราะอาจจะทำให้ลื่นล้มเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ยังควรงดใส่รองเท้าส้นสูงในช่วงตั้งครรภ์ เพราะนอกจากอาจจะสะดุดล้มเเล้ว การสวมรองเท้าส้นสูง👠ยังทำให้เดินหรือยืนไม่ถูกท่า ซึ่งเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วยหลีกเลี่ยงการเดินในที่มืดคุณแม่ควรเปิดไฟ💡ในบ้านให้สว่างพอที่จะมองเห็นเวลาเดินไปในห้องต่างๆ หรือพกไปฉายไว้ใกล้ๆตัวถ้าหากสวิตซ์ไฟอยู่ห่างไกลจากตัว เพราะถ้าหากมองเห็นไม่ชัดคุณแม่อาจจะไปเหยียบสิ่งของตามพื้นหรือสะดุดล้มจนก่อให้เกิดอันตรายได้นั่นเองไม่อาบน้ำในอ่างแม้ว่าในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่อยากจะนั่งอาบน้ำสบายๆในอ่างอาบน้ำ🛁 แต่เราขอแนะนำให้คุณแม่ยืนอาบน้ำฝักบัวแบบปกติดีกว่า เนื่องจากหากคุณแม่นั่งอาบน้ำ ตอนลุกขึ้นมาจากอ่างอาจจะล้มหรือหน้ามืดทำให้เป็นอันตรายได้ ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรยืนอาบน้ำจะดีที่สุดนะคะ<hr>จะรู้ได้อย่างไรว่ากระดูกหัก?<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3617/619ad7dd-2ca4-4d51-b6ab-8dd34b6b226b.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">เมื่อคุณแม่เกิดอุบัติเหตุหรือหกล้ม คุณแม่ควรเฝ้าสังเกตอาการตัวเองให้ดีว่ามีส่วนที่กระดูกแตกหรือหักหรือไม่ ทั้งนี้เราได้เตรียมข้อสังเกตเบื้องต้นที่บ่งบอกถึงอาการกระดูกหักมาเตือนให้คุณแม่ได้ฟังกันค่ะอวัยวะดูผิดรูปหากคุณแม่หกล้มเเล้วอวัยวะบริเวณที่หกล้มหรือกระเเทกลงพื้นมีลักษณะผิดรูปหรือแปลกไปจากเดิม ซึ่งอาจจะเกิดจากการที่กระดูกภายในหักแล้วทิ่มออกมา คุณแม่ไม่ควรนิ่งนอนใจเเละไปโรงพยาบาล🏥ให้คุณหมอดูอาการจะดีที่สุดค่ะรู้สึกเจ็บบริเวณที่หกล้มหากคุณแม่รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณที่คุณแม่ได้รับอุบัติเหตุหรือหกล้มควรรีบไปโรงพยาบาลให้แพทย์ดูอาการทันที เพราะเนื่องจากนี่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ากระดูก🦴ภายในได้แตกหรือหักก็เป็นได้บริเวณที่หกล้มปูดหรือบวมหากคุณแม่หกล้มเเล้วบริเวณที่ล้มหรือกระเเทกปูดบวมออกมา ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะกระดูกภายในอาจจะแตกหรือหัก หรือถ้าไม่หักทันที ณ ตอนนั้นก็อาจจะมีโอกาสก่อให้เกิดอุบัติเหตุบริเวณเดิมซ้ำภายหลังก็เป็นได้ได้ยินเสียงกระดูกเคลื่อนหากคุณแม่ได้ยินเสียงกระดูกเคลื่อนตัวในบริเวณที่ล้ม หรือได้ยินเสียงแปลกๆเวลาเคลื่อนไหวร่างกายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว คุณแม่ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์👨&zwj;⚕️ดูอาการทันที เพราะถ้าหากกระดูกภายในได้รับการกระทบกระเทือนหรือแตกหักจะได้เข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที

ระวัง!! กระดูกหักในช่วงตั้งครรภ์ รู้ไว้ก่อนที่จะสายเกินแก้

7주차되어서 오늘 초음파 보러 다녀왔는데 아기집은 커졌는데 아기가 안보인다고 4일뒤에 다시 오라하셨는데 너무 걱정되네요..ㅜㅜ
임신증상은 그대로인데.. 마음이 착찹해요
다른 병원가볼까도 생각했는데 똑같은 소견들을까봐 못가겠어요ㅠㅠ

7주차 아기가 안보인대요

불안하시면 다른병원도 다녀오세요!
저는 막생기준 7주에 애기집 난황만보고 난황도 다른분들은 예쁜 동그라미던데 ㅋㅋ저는 걍 아주아주 작은 점처럼요 ㅋㅋ 그리고 8주에 심장소리들었어요 ~
병원주수는 6주라네요 ~ 맘편히있으셔요❤️담주엔 반짝반짝거리는 심장소리 들으실꺼예요~

저 막생기준 7주였을때 아기집만 보였었어요
배란이 늦게 되거나 착상이 늦게 되면
안보일수도 있다고 하셨어요
지금은 막생기준 9주, 초음파기준 8주
심장소리도 우렁차고 건강하다고 하셨어요!

저도 막생기준8주. 애기 크기로는 6주4일 같닥하셨어요. 착상이 늦은거 같다고 .. 저도 일주일 기다렸다 심장소리 다시 들으러가요~  못참고 딴병원 가봤는데 똑같더라구요 .. 그래서 맘편히 기다렸다 담주에 가보려구요 ㅠ 애기 커지라고 콩물 먹고 있어요 ㅋㅋ

다른 아기들은 낮잠 시간 어떻게 되나요...? 
(오늘 158일차 여아)

애바애인 것도 아는데 우리 애는 지금도 하루에 4번은 낮잠 자네요🤔(사진 파란색이 수면시간) 외출하면 잘 안 자서 외출할 때는 가끔씩 3번만 하는데 그래도 낮잠 시간이 좀 많은 편인 것 같네요. 
낮잠 많이 잤다고 밤잠을 못 자는건 아닌거 같고 한번씩 세벽에 일어나도 울지도 않고 쪽쪽이 물려주면 뒤척이다가 바로 잠드는 편이에요. (세벽 수유는 안해요)

놀다가 좀 징징대면 침대에 눕히는데... 그냥 계속 놀아주면 깨시 늘까요..? 아니 애초에 깨시 늘려야 되는건가요??? 😂😂 자연스럽게 늘어나는걸 기다리려고 했는데 그렇게 하시는 분 계실까요!!!


5개월 아기 수면시간

저도 깨시 늘리려고 낮잠자는 애기 깨웠다가 더 못자고 힘들어하는것 같아서 요새는 기상시간이랑 잠드는 시간만 고정해놓고 낮잠은 아기가 원하는 만큼 잘 수 있도록 해주고 있어요. 단 2시간이 넘어가면 생활소음이랑 빛 들어오게해서 자연스레 깰 수 있도록하고 4시 이후에는 낮잠을 1시간 이상 자지 않도록 산책나가거나 놀아주거나 하고 있어요!

전 그냥 키우는데 낮잠 2시간씩 자도 잘자요 ㅋㅋㅋ 오늘 낮잠4에서 2시간20분 자고 8시반 입면 했어요. 깨시 2시간일때 엄청 짜증내용

헉 저희아가는 낮잠 항상 4시간정도 자는데..! 이것도 줄었다고 생각하고있었는데 많은거군요 ㅜ ㅜ
밤잠은 8-9시간정도해서 하루 총 수면시간 12ㅡ13시간정도요
지금 168일차에요!

หากคุณกำลังเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือเป็นคุณผู้หญิงในวัยที่กำลังมีประจำเดือน คุณเคยมีอาการเหล่านี้หรือไม่คะ ไม่ว่าจะเป็นประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มากหรือน้อยเกินไปบ้าง น้ำหนักเพิ่มขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ เริ่มเป็นสิวหรือหน้ามันมากขึ้นผิดปกติ อาการเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของโรคหนึ่งที่มืชื่อว่า &ldquo;ภาวะถุงน้ำในรังไข่&rdquo;ภาวะถุงน้ำในรังไข่หรือ Polycystic Ovary Syndrome (PCOS) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับคุณผู้หญิงทุกท่านในวัยเจริญพันธุ์ ไม่เฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เท่านั้น บทความนี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงที่กำลังอ่าน หรือแม้กระทั่งคุณผู้ชายที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นผู้หญิง สามารถช่วยกันสังเกตอาการกันและกันได้ ภาวะนี้เกิดจากอะไรและผู้ป่วยจะมีอาการอย่างไร เราไปดูกันค่ะ<hr>สาเหตุ อาการ และความเสี่ยงต่อร่างกาย<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3656/308f1ba3-98e4-44ff-9d72-aad054c063b9.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ภาวะดังกล่าวเกิดจากการที่ต่อมไร้ท่อในร่างกายที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการผลิตฮอร์โมนมีความผิดปกติ ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของระดับฮอร์โมน ซึ่งเจ้าฮอร์โมนเหล่านี้ที่เปรียบเสมือนฟันเฟืองของร่างกาย เมื่อผิดปกติก็ทำให้ร่างกายเราผิดปกติไปด้วย โดยจะมีความผิดปกติอะไรที่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า👀บ้าง ไปดูกันเลยค่ะประจำเดือนมาไม่ปกติหากคุณผู้หญิงมีรอบของประจำเดือนที่ไม่สม่ำเสมอ ทิ้งช่วงห่างระหว่างเดือนมากกว่า 35 วัน เป็นประจำเดือนน้อยกว่า 8 ครั้งต่อปี หรือมีปริมาณประจำเดือน🩸ที่มากหรือน้อยกว่าปกติ ก็นับเป็นหนึ่งอาการที่มีความเสี่ยงจะมีภาวะถุงน้ำในรังไข่ ซึ่งมีความเสี่ยงจะก่อให้เกิดภาวะอื่นๆเกี่ยวกับการมีบุตรตามมา ไม่ว่าจะเป็นภาวะมีบุตรยาก ภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือแม้กระทั่งโรคมะเร็งเยื่อบุมดลูกน้ำหนักเพิ่มขึ้นการที่คุณผู้หญิงสังเกตตนเองว่ามีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น เริ่มมีไขมันพอกตามร่างกายหรืออ้วนลงพุง ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงในการเกิดภาวะถุงน้ำในรังไข่ได้ การที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นอาจเป็นเพราะร่างกายมีสมดุลของฮอร์โมนที่ผิดปกติ หรืออาจเกิดจากพฤติกรรมที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณผู้หญิงเอง เช่น การไม่🙅&zwj;♀️คุมอาหาร บริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก ขาดการออกกำลังกาย ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ยังทำให้คุณผู้หญิงเสี่ยงที่จะเป็นโรคอื่นๆเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง ตับอักเสบ หรือแม้กระทั่งเบาหวานชนิดที่สองลักษณะเหมือนเพศชายหากคุณผู้หญิงเริ่มสังเกตว่าตนเองมีเสียงที่ใหญ่ขึ้น ขนตามร่างกายเพิ่มขึ้น หน้ามันง่าย สิวขึ้นง่าย ผมร่วงง่ายจนทำให้ศีรษะเริ่มล้าน คุณผู้หญิงก็มีความเสี่ยงจะมีภาะถุงน้ำในรังไข่เช่นเดียวกันค่ะ<hr>วิธีการรับมือ<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3656/12807f6f-dcb4-463c-9678-d7f86338a0f6.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">จะดูแลตนเองได้อย่างไรเมื่อมีอาการเหล่านี้?หากคุณผู้หญิงสังเกตได้ว่าตนเองมีอาการเหล่านี้ แนะนำว่าให้ไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล🏥โดยด่วน โดยวิธีการตรวจก็สามารถทำได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจภายใน การตรวจผลเลือด หรือแม้กกระทั่งการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์เพื่อตรวจสอบความผิดปกติภายในมดลูกของเรา ล้วนแล้วแต่เป็นขั้นตอนที่ไม่น่ากลัวและคุ้มค่าที่จะลองตรวจค่ะวิธีการปฏิบัติตนสำหรับผู้ป่วยนั้นง่ายมากค่ะ เพียงแค่คุณผู้หญิงรับประทานยา💊และปฏิบัติตนตามที่แพทย์สั่ง หากิจกรรมลดความเครียดทำ ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ความอันตรายของโรคนี้ก็จะต่ำลง จนหายได้ในที่สุดค่ะหากยังไม่มีภาวะเหล่านี้ สามารถดูแลตนเองได้อย่างไร?คุณผู้หญิงสามารถดูแลตนเองด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการควบคุมอาหาร รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันของตนเอง หมั่นออกกำลังเป็นประจำ พักผ่อนโดยการนอนหลับ💤ให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้มีความเครียดที่ต่ำ โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยดูแลคุณผู้หญิงให้ปลอดภัยจากภาวะถุงน้ำในรังไข่ หรือแม้กระทั่งโรคอื่น ๆ ด้วยค่ะ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหมั่นสังเกตอาการและความผิดปกติของร่างกายตนเอง หากพบความผิดปกติควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบและวิธีรับมือ

모유수유중이고 낮에는 3시간 밤에는 4시간텀인데 다들 어떻게되나요??
통잠자는 50일 아기들도 많은 것 같아 수유량, 수유텀 같이 공유해봐요..!^^

50일 아기 수유텀 다들 어떻게 되시나요?

4키로 100ml 3시간 간격이요 ㅠㅠ 통잠 안자요

55일차 여아 4.6 키로 완모 직수중인데 낮엔 칼같이 2시간반, 밤엔 3시간정도요 ㅎㅎ 통잠 원츄 🥲

43일 모유수유+가끔분유
낮에는 2시간반-3시간반 텀이고, 40일부터는 밤 시간에 6시간 자고 있어요🥲
하루 7번 수유 하고 있어요 :)

50일 4.2키로 3시간30분4시간 간격 120이요
밤낮동일해요 ㅜ ㅜ

46일 여아 5키로 
완모 직수 낮에는 3시간-4시간텀이구, 
밤에는 저녁 8시쯤부터 8시간 자구 새벽4시에 한번 더먹고 7시 기상해요! 
하루 수유횟수는 6회요!!

분유라 텀이 더 긴거같아요ㅠ 모유수유 정말 대단해요!

51일 완분 아기 낮엔 2.5~3시간, 밤에는 5~6시간 나와요:)

모유수유하는데 낮엔 2시간 텀이에요ㅠㅠ 한쪽만 먹고 자버려서ㅠㅠ 밤엔 한쪽만 먹어도 4시간은 되는듯 해요

51일차 남아 5.5키로
130-160미리 4-5시간텀이네요!
새벽에 통잠이 가능해지면 참좋겠어요 ㅜㅡㅜㅋㅋ

54일차 남아 1시간반~2시간반 간격으로먹고 텀의 짧아서그런지 70~160들쭉날쭉해요. 거의 잠안자고 계속놀아요. 그러다 9시~11시 마지막수유하고 4시간~7시간정도 자고 깨서먹고 2~3시간정도 또 자주네요. 낮엔텀이 짧아서 좀힘든데 밤엔 좋아요 거의 통잠수준이라. 낮밤완전 구분하는거같아요

55일차 여아 4.8kg 
낮 수유텀은 모유수유(직수) 하루 3-5회씩 짧게는 15분에서 길게는 20분씩 하고,
분유수유는 6-7회씩 하고 었어요.
낮에는 2시간 30분씩이고, 
밤엔 막수 9시에서 10시 사이에 하면,
새벽 4시에서 6시 사이에 깨요.
낮에는 텀이 일정치는 않네요 ㅠㅠ

51일 남아 몸무게는 5킬로 중반되는거같은데..정확친않아요ㅎ160ml먹는데 모유유축으로먹이고 3시간,분유는 4시간텀이고 낮에 정량챙겨먹고 목욕후 기분좋을땐?모유먹여도 1시간더자고 밤에는 분유먹이는데 보통은..5시간정도는 자는거같요~5,7,8시간 잔적있네요?낮밤구분은 대충하는거같아요~평균6회 수유하고 수유시간은 진짜 안쉬고먹으면15분 보통은 그이상인데 어제부터는 160을 다못먹네요..진짜안먹을땐110만먹기도해요ㅠㅎ

50일 남아 5키로인데 낮에는 3.4시간 늦게는 5시간까지 먹는데 3시간은 80-120정도 먹었을때고 4ㅡ5시간은 160정도 먹었을때에요 ㅎㅎ
저녁에 160먹고 목욕하고 보충 80하고 자면 45일부터 6시간자다가 2일전부터 7ㅡ8시간씩 자네요 새벽수유 160먹으면 기상시간이 2ㅡ3시간이후에 하루가 시작되요 ㅎㅎ

53일차 남아 5.0키로
140-160미리 낮: 3-4시간 밤:어두워지고나서 자기 전까지 4시간, 평균적으로 지금은 막수 10시쯤하고 새벽에는 5-7시간 텀 나요!


ในระหว่างการตั้งครรภ์นั้น แน่นอนว่าคุณแม่จะต้องพยายามดูแลรักษาสุขภาพ ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งบางคนก็จะต้องปรับเปลี่ยนอาหารที่เคยทานกันสักหน่อย โดยการทานอะไรที่มีรสชาติเกินไป เช่น หวานเกินไปก็จะทำให้เกิดโรคได้ แล้วหากกินเค็มหล่ะ จะส่งต่อคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์มากน้อยแค่ไหน เราไปพบคำตอบกันค่ะ&nbsp;<hr>ตั้งครรภ์อยู่กินเค็มได้หรือไม่?<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3660/f9a4c8ab-4f42-4e08-99c2-283ba670305b.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">เกลือก็มีประโยชน์นะจริงๆแล้วระหว่างการตั้งครรภ์คุณแม่สามารถทานเค็มได้ แต่การรับประทานมากจนเกินไปก็สามารถทำให้เกิดโรคได้ ซึ่งความจริงแล้วเกลือ🧂นั้นก็มีประโยชน์และมีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท รวมถึงระบบหลอดเลือดและหัวใจ อย่างไรก็ตามการทานอาหารที่มีรสเค็มมากจนเกินไปจะทำให้มีปริมาณโซเดียมในร่างกายสูงและส่งผลให้เกิดโรคต่างๆได้ อย่างความดันโลหิตสูง รวมถึงอาจส่งผลให้เกิดโรคร้ายอื่นๆได้อย่าง เสี่ยงต่อครรภ์เป็นพิษ ส่งผลเสียต่อหลอดเลือดสมอง🧠 หลอดเลือดหัวใจ และอาจทำให้เกิดหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถทานเค็มได้แค่ไหนสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลว่า โดยปกติแล้วผู้หญิงอายุระหว่าง 19-30 ปีนั้น ร่างกายจะต้องการโซเดียมประมาณ 400-1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ส่วนผู้หญิงอายุระหว่าง 31-70 ปีนั้น จะต้องการโซเดียมประมาณ 350 -1,050 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งหากอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ก็จะต้องการโซเดียมเพิ่มประมาณ 50-200 มิลลิกรัมต่อวัน และหากกำลังให้นมบุตร ก็จะต้องการโซเดียมเพิ่มวันละ 125-350 มิลลิกรัมนั้นเองค่ะ🧂 &nbsp;ซึ่งหากสามารถรับประมาณได้ตามที่กำหนดก็จะมีความปลอดภัยต่อทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อยค่ะ🤰<hr>ทำอย่างไรจึงจะเลี่ยงอาหารเค็มได้?<img src="https://cdn.billyapi.com/posts/3660/9742db5c-cb68-4cf8-9e81-006b1e7b5f71.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ในการเลี่ยงอาหารรสจัดนั้น ไม่เพียงรสเค็มเท่านั้นที่จะต้องเลี่ยง เนื่องจากอาหารส่วนมากจะผ่านการปรุงให้มีรสจัดจึงทำให้คุณแม่มีโอกาสได้รับสารโซเดียมมากขึ้น ดังนั้นคุณแม่สามารถเลี่ยงอาหารเค็มได้ ดังนี้✨พยายามหลีกเลี่ยงน้ำจิ้ม เนื่องจากน้ำจิ้มต่างๆนั้นล้วนมีส่วนประกอบของโซเดียม✨ทานอาหารให้หลากหลายมากขึ้น เช่น การทานผักผลไม้สดต่างๆ&nbsp;✨หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป หรืออาหารสำเร็จรูป เนื่องจากอาหารเหล่านี้มักมีโซเดียมสูง✨อาจปรึกษานักโภชนาการได้&nbsp;✨สุดท้ายนี้ พยายามทำอาหารทานเองเพื่อที่สามารถควบคุมปริมาณของอาหารนั่นเองค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะ หวังว่าคุณแม่จะได้เทคนิคในการทานโซเดียมในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากก็น้อยนะคะ&nbsp;

คุณแม่ตั้งครรภ์ติดเค็ม อันตรายไหม?

ตั้งครรภ์แล้วนอนท่าไหนถึงจะดี!? เป็นหัวข้อที่แม่ๆหลายท่านสงสัยกันใช่ไหมคะ? ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่ตอนเริ่มท้องอ่อนๆ หรือเมื่อท้องเริ่มขยายใหญ่ ซึ่งหลายๆคนก็กลัวว่าถ้านอนผิดท่าไปจะไปทับลูกในท้องหรือเปล่า แต่ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะวันนี้เบบี้บิลลี่มาตอบคำถามคุณแม่ทุกๆท่านให้แล้วค่ะ<hr>ท่านอนที่เหมาะสมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์<img src="https://cdn.billyapi.com/new/froala/posts/6bda628d-b603-466f-bcdc-d5ab8c6bf205.webp" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ท้องอ่อนๆ 3 เดือนแรกสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆอยู่🤰 โดยทั่วท่านอนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่มากนัก แพทย์ได้ให้คำแนะนำว่าท่าที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณแม่ในช่วงนี้ก็คือท่านอนหงาย เนื่องจากว่าในช่วงนี้จะมีทารก น้ำคร้ำ และรกในครรภ์แล้ว แต่มดลูกจะยังไม่ขยายตัวเต็มที่ ดังนั้นการนอนตะแคงอาจทำให้คุณแม่ปวดบริเวณปีดมดลูกด้านใดด้านหนึ่งได้ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณแม่นอนตะแคงขวาก็จะทำให้น้ำหนักเทลงมาทับมดลูกด้านขวา ส่งผลให้ปีกมดลูกซ้ายถูกรั้งและทำให้รู้สึกตึงได้ ดังนั้นหากคุณแม่นอนในท่านั้นไปจนถึงเช้า เมื่อตื่นขึ้นมาอาจรู้สึกถึงอาการเสียดได้ ดังนั้นจึงแนะนำให้มีการพลิกตัวบ่อยๆ หรือนอนในท่าหงายจะดีที่สุดค่ะ&nbsp;คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ 3-6 เดือนเมื่อท้องของคุณแม่เริ่มขยายใหญ่ขึ้นในช่วงเดือนที่ 5 คุณแม่อาจเริ่มต้องใช้ตัวช่วยอย่างหมอนหนุน โดยท่าที่เหมาะสมที่สุดในช่วงนี้คือการนอนตะแคง🛏️ โดยให้นำหมอนมาหนุนตามแนวหลังหรือแนวหน้าท้องของคุณแม่ได้ค่ะ&nbsp;ตั้งครรภ์ 6-9 เดือนสำหรับคุณแม่ที่ท้องจนเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ท่านอนที่เหมาะสมที่สุดในช่วงนี้คือท่านอนตะแคงนั่นเองค่ะ เนื่องจากว่าท้องได้ขยายใหญ่และมีน้ำหนักพอสมควรและมดลูกขยายตัวเต็มที่จึงสามารถนอนตะแคงได้และไม่รู้สึกถึงการเสียดด้านใดด้านหนึ่งเหมือนตอนที่ยังท้องอ่อนๆนั่นเองค่ะ โดยคุณแม่อาจเตรียมหมอนใบเล็กๆไว้หนุนรองท้อง และอย่าพลิกตัวแรงหรือเร็วจนเกินไปเพื่อป้องกันการปวดหลังนั่นเองค่ะ😊<hr>นอนตะแคงซ้ายเหมาะสมที่สุดจริงหรือ?<img src="https://cdn.billyapi.com/new/froala/posts/70fa544c-8827-42ce-8102-176801980524.webp" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ท่านอนตะแคงซ้ายเหมาะที่สุดสำหรับคนท้อง!ทราบหรือไม่คะว่าการนอนตะแคงซ้ายถือเป็นท่านอนที่เหมาะสมที่สุดในระหว่างตั้งครรภ์เลยค่ะ เพราะการนอนตะแคงซ้ายนั้นจะช่วยให้เลือด🩸ไหลเวียดได้ดี เนื่องจากกระดูกสันหลังจะไปขนานกับเส้นเลือดใหญ่ของคุณแม่ด้านขวาและทำให้เลือดไปกลับหาหัวใจและลูกน้อยได้ดีนั่นเองค่ะ&nbsp;นอกจากนั้นการนอนตะแคงซ้ายยังช่วยเรื่องของการลดแรงกดทับจากตับไต ทำให้มีพื้นที่มากขึ้น รวมถึงยังช่วยลดอาการบวมของมือ เท้า🦶 และข้อเท้าได้ด้วยค่ะแล้วนอนตะแคงขวาหรือนอนคว่ำได้ไหม?คำตอบคือคุณแม่สามารถนอนตะแคงขวาได้ค่ะ! การนอนตะแคงขวามีความปลอดภัยต่อลูกน้อยในครรภ์ค่ะ ส่วนสำหรับท่านอนคว่ำนั้น คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไปควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากเป็นช่วงที่ท้องเริ่มขยายใหญ่และทารกมีการเติบโต การนอนคว่ำจะทำให่คุณแม่หายใจลำบาก และเป็นการกดทับบริเวณมดลูก ซึ่งเป็นอันตรายต่อทารกที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงไปก่อนนะคะ🙅&zwj;♀️&nbsp;<hr>สิ่งที่ต้องระมัดระวังเมื่อนอน<img src="https://cdn.billyapi.com/new/froala/posts/820a1b80-d88f-4729-9711-146c365754a7.webp" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">ซึ่งนอกจากคุณแม่จะต้องใส่ใจในเรื่องของท่านอนแล้ว สิ่งที่คุณแม่ต้องใส่ใจอีกอย่างหนึ่งคือท่าลุกขึ้นหรือท่านอนลงนั่นเองค่ะ&nbsp;ท่าลุกขึ้นจากเตียงเมื่อตั้งครรภ์แล้วให้ท่องไว้ในใจว่าอย่าทำอะไรรวดเร็วเมื่อแต่ก่อนค่ะ โดยเวลาที่จะลุกจากเตียง ให้คุณแม่ตะแคงพลิกตัวก่อน โดยหากพลิกตัวไปด้านขวา ก็ให้เอามือขวายันไปกับเตียง🛏️ เพื่อช่วยพยุงลุกขึ้นนั่งก่อน แล้วจึงค่อยๆลุกเดินค่ะ&nbsp;ท่าล้มตัวลงนอนบนเตียงสำหรับท่าล้มตัวนอนบนเตียงคุณแม่จะต้องนั่งลงก่อน ไม่ควรคลายขึ้นไปนอนทันที เพราะอาจทำให้เสียการทรงตัวและกลิ้งลงบนที่นอนได้ โดยหลังจากนั่งลงแล้ว ค่อยๆตะแคงตัวลงนอน ใช้เอามือยันที่นอนเหมือนเดิม ให้ดูว่าหมอนหนุนศีรษะให้พอดีช่วงคอ สำหรับคุณแม่ที่ท้องอ่อนที่ต้องนอนหงายก็ให้ค่อยๆพลิกตัวจากท่านอนตะแคงเป็นท่านอนหงายช้าๆได้เลยค่ะ👌เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะกับท่านอนสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ทำตามได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ อย่าลืมว่าให้ช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ&nbsp;

การนอนตะแคงขณะตั้งครรภ์ดีที่สุด!

안녕하세요~ 저는 이제 6주5일차되는 축복이맘입니당 다름이 아니라 혹시 집에 고양이나 강아지 키우시는 맘분들계신가요~?저희집은 이제 1년된 고양이 두마리가 있는데 아기 태어나기전부터 정리가필요하다고 들었는데 어찌 시작해야하는지..고양이랑 아기가 잘 놀수있는지..고양이들이 아기를 다치게하는건 아닌지 궁금해서 어찌 합사?를 시작하셨는지 조언해주실수있을까요?!?ㅜㅜ고양이는 둘다 수컷이고 샴.아메숏. 입니당 

고양이와 아기

저는 반려동물은 키우지않지만 주변에 애냥육아, 애개육아하는 친구들이 많아여. 고양이도 성향이 다 달라서 애기한테 조심스럽게 하는 고양이가 있고 견제하고 공격적인 고양이가 있지 않을까요~ 우선 중간에서 엄마아빠 역할이 중요할듯 해요. 어쩌면 집에 애기보다 고양이가 먼저 자리를 차지하며 사랑과 관심을 받앗었고 본인들 영역에 애기가 들어왔다고 생각할수도 있으니까요~
고양이들 평소 성격 보면 애기한테 어떻게 할지 보이지 않나요? 제 지인은 고양이가 내성적이고 숨어있는거 좋아하고 낯가리고 하악질해대서 방에 철저히 분리시켜놨어요.

제 주변인들은 다 운이 좋았는지 아기를 할퀴거나 때리거나 하는 경우는 없었다고 하고요 첫 만남 부터 냄새 맡고 서서히 가까워졌다고만 들었어요!
저도 지금 고양이 두 마리 키우는 중이고 일단 조리원 없이 바로 집으로 올 예정이라 한동안은 고양이랑 아기랑 분리해두고 고양이 끼리 합사 시키듯이 아기 냄새 고양이에게 익숙해지도록 하고 한참 지나고서 인사 시켜주려구요!

보통 아기 데리고오면 사람보다 더 조심하고 신중히 다가간대요 ㅎㅎ 저건 뭐지? 라는 식으로요 ㅋㅋ

친정에서 50일까지 지냈는데 10살 냥이가 아기있는 방은 궁금한지 기웃거려도 막상 들어와서는 거리를 두고 관찰하더라구요 ㅎㅎ 돌 지난 지금은 애기가 냥이 쫓아댕겨요

아이랑 둘만있게 하지말고, 아이방만 못들어가게 하면 될거같아요. 
전세계 고양이개 키우는 사람이 얼마나 많은데 ... ㅜㅜ 다들 잘 키우잖아요
저도 개 키우는데 
제가 개알러지가있어섴ㅋㅋ 임신하면서 알러지 전문의 만나서 임산부 전용 처방 따로 받아왔어요 ㅋㅋ;;; 

조리원가시면 애기손수건 챙겨가셔서 애기냄새 뭍히고 남편분보고 집 가져가서 고양이가 아기냄새에 익숙해지게 해보세요 
저는 강아지키워서 미리미리 냄새 맡게해주고 있어요 ㅠㅠ
고양이는 아기랑 있을때 반응보고 정안된다 싶르면 방하나를 아예 통으로 주고 격리하기도 하더라구요 ㅠㅠ

저희도 냥이 두마리있어요! ㅋㅋㅋㅋ 일단 애기방에 출입금지시켜놨구, 애기방에 못들어가게 문 설치할거에요! 아가태어나기전에 털 밀거고ㅠㅠㅠㅠ.... 조리원에있을때 아가용품 하나씩 신랑편에 보내서 냄새맡게해줄거기도할라구요! ㅋㅋㅋ 제친구도 고양이두마리키우고 얼마전에 출산햇는데.. 냥이들이 애기한테 별 관심이 없더래요,,,,,,,

저도 1살 넘은 수컷 브숏 두마리 키우고있어요~! 저희애들은 공격적이진 않고 낮선 사람한테도 우호적인편인데 그래도 애기랑 두고 자리를 비우진 않을거에요! 애기들 태어나기전에 고양이들 털 밀 예정이구요~ 산부인과 원장님께 고양이 키우고있다고 말씀드리니 톡소플라즈마 검사해주셨네요~ 초기에 받아놓으면 맘편하더라구요! 그리고 저희는 고양이 심장사상충이나 약같은거는 잠시 중단했어요 혹시몰라서용 ^^ 고양이 화장실도 남편이 주로 치우고 제가 할때는 마스크랑 비닐장갑끼고 치우고있어요~

저는 첨부터 분리하지 않고 키웠어요. 아이 낮잠자거나 밤잠잘 때 빼고는 거실에서 놀때 같이 놀고 그랬는데 돌 이후로는 아이가 냥이랑 같이 놀더라구요. 
물론 아이가 힘조절 못하니 냥이에게 긁히고 물리고 했지만 이 부분에 있어서는 아이에게 알려주고 훈육하고 하니 이젠 덜하더라구요ㅡ 냥이도 그러려니 받아들이는 입장이기두 하고요.
아! 병원서 출산하고 조리원까지 다녀오시면 아마 쓰니님에게 냥이가 하악질 할 수 있어요. 이 부분에 있어서는 너무 냥이에게 뭐라 하지 마시구 쓰니님이 없어서 그럴수도 있고, 아이가 낯설어서 그럴수도 있으니 시간 지나면 점차 나아질 겁니다. 
다른 글에도 이사진 올렸는데 아이랑 냥이랑 같이 놀다가 지쳐 아이 자는 모습인데 그리 사랑스럽습니다🥰

저도 고양이랑 같이 키우고있어요 고양이는 공동육아하는 동물이에요~~너무 걱정 마세요 

저희집은 4마리 키우는데 4마리다 아기한테 도망가요,,, 지금은 17갤이지만 신생아때 호기심만 갖고 멀리서 보기만 하더니 아기가 크니 자기들 괴롭혀서 이제 도망다니기 시작하고요.. ㅋㅋㅋㅋ 그리고 아기가 울때 옆에서 안절부절 하는 모습도 보여주더라구욯ㅎ 뒤집기 시기땐 같이 마주보고 있어주기도 했어요! 그리고 저희집 고양이 한마리가 아직도 자기가 아기인줄 알고 아기쿠션 뺏어서 누워있긴한데 아기가 다가오면 비켜줍니다 ㅎㅎ,, 그리고 아기랑 잘 놀때도 있어서 보기 좋아용 그래도 손톱은 주기적으로 잘라주세요!

유튭보니까 알러지없으면 그냥 바로 인사 시켜주고 공간 분리하다가 만나게해주고 하던데용 

첫째 낳을때 나이많은 고양이 둘 키우고 있었어요 둘다 지금은 노환으로 무지개 다리 건넜지만...
전 깜짝 놀란게 고양이 둘 중 하나는 외부 사람 안 좋아하고 사나웠는데 애기 낳고 수시로 인사시켜주고 하니까 나중에 합사한 뒤에 애기가 귀찮게 해도 꾹 참더라고요 
심지어 가까이 와서 자기 만지게 하기도 하고요 넘 신기했어요 두마리 다 단 한번도 공격 하거나 한적 없어요 
넘 애기때는 베란다에 분리해두긴 했었어요

코숏 7마리 집사에요, 워낙 털을 뿜어대니 아기가 오기 전에 집안 털 청소(?) 깔끔하게 해두고 처음 한 달 정돈 분리시켜 두었다가 딱 고양이들 합사하듯 천천히 냄새 맡게 하고 멀리서 보여주고 하면서 자연스럽게 유도하려구요. 새끼냥이 데려올때마다 느꼈는데 공동육아본능이 대단해요. 아기다, 작다 느끼는 존재는 딱 알아보고 조심히 대하고 지들이 더 걱정하더라구요🥹 정말 영리하고 똑똑한 존재에요

냥이방출입통제는 아기나오기 전부터 시작했어여! 주집사인 제가 애낳고 조리원가고하면서 두마리중 한마리가 방광염도오고했지만 지금은 아주아주 잘지내요! 
거실에서 아기목욕시킬때만 만나고있는데 가끔냄새만 킁카킁카 맡고 다른반응은없네용 ㅎㅎㅎㅎ 

저도 10월 출산 예정이고 멍2냥1 있는데 다 잘 지낼수있을거에요! 
임신했다고 동물을 뭐 치우네마네는 말도 안되는것같아요.. 

정리가 필요하다는 남들의 말들은 듣지 않으시는게 좋을거 같아요... ㅠㅠㅠ 11살된 포메 키우는데 모량도 풍부해서 어마무시하게 털이 빠지지만 부지런히 청소하며 7살 아들하나있구 뱃속에 둘찌있어요 ! 신생아때만 분리 했구 이후에는 그냥 놔뒀는데 오히려 강쥐가 애를 피해다녀욥... 🤣🤣 지금 첫째는 강아지도 우리 가족이라며 애정을 표현하기도 한답니다 ㅎㅎ반려동물이 있으면 바쁜일이 조금 더 생기지만 잘해내실거에요 !! 

전..약간~ 실패한 케이스에요 ㅎ 주인님이 워낙 겁 많고 15살이에요.. 오히려 돌 이전에는 아기가 달려들지 않으니 다른분들 말처럼 읭 이건모지? 였는데 아기도 점점 존재를 알아가는 즈음 만지고 소리지르니 어느날 애기 손을 물었어여 😇 그렇게 아기는 피를 처음 배웠고 지금은 알파벳 피를 가르키면 손을 가르키며 피라고 합니다 🤣 두돌 정도되니 서서히 친해지고 있어요 말 못하는 아기는 어디로 튈지 모르니 고양이에게 부탁드려야죠 ㅜㅜ 지금은 잠자기전에 츄르도 직접챙기고 밥그릇 비어있으면 사료도 넉넉히 준답니다:") 너무 걱정하지마세요 잘하실고에요 애묘육아!

제 친구 고양이 3마리 키워요. 
애들이 아기 싫어하는데 할퀸적 없어요. 
돌 지나니 귀찮게 하면 솜방망이 한대만 톡 하더라구요 셋 중 한마리만
걱정하지 말고 아이들 믿어주세요

엄청..잘지내요..
귀찮아하는데또와서붙고같이있으려해요ㅎㅎ
털이많이빠져서
청소가빡세서그렇지애기가엄마보다고양이를더좋아해요

108일 3개월 아기 키우는 엄마에요~ 현재 집에 8살된 고양이랑 같이 애묘육아중인데요 저도 임신 전에 엄청 걱정했었고 어르신들이 고양이털때매안된다고 격리시키자고 말많이하셨는데 고양이는 애기한테 전 혀 관심없더라고요^^ 먼저 다가가지않고 애긴거 알고 피합니다.. 지금 누워만있고 혼자 못움직일때라 애기냄새맡고 그냥 지나가고 애기안고있으면 안와요 나중에 기고 걸을때면 고양이 좋아서 쫓아다니라고 고양이가 더 피할거에요 걱정마세여~ 털은 대신 .. 청소기 매일 돌리고 있어용 ㅎㅎ

매우 조심스러워합니다. 이제 123일 됐는데 지뢰아닌가 싶을정도로 피해다녀요 ㅋㅋㅋㅋㅋ저는 처음부터 분리 안했고 냥이가 겁이 많아서 알아서 제일 먼 방으로 피신갔다가 점점점 물리적으로 가까워졌고 아기 울음소리에 엄청 울었는데 그것도 3일정도 지나니 익숙해졌는지 울던말던 잘 자더라구요 ㅎㅎ 지금은 머리맡에서 발 밑에서 잘 정도로 가까워졌습니다!😀 

저도 2년 가까이 같이 살아온 고양이가 있는데 합사는 문제없었어요
낯선 사람이 오면 잔뜩 쫄아서 도망다니기 바쁜 냥이였는데 제 냄새가 나서 그런지 작은 아기여서 그런지 겁먹지 않고 금방 적응하더라구요 
고양이 털 날리는것만 조금 신경써주시면 될것같아요 공기청정기 돌리고 청소기 자주 돌려도 조금만 한눈팔면 여기저기 고양이 털이 보이더라구요..

저는 강아지3마리 키우고 임신 15주에요. 입덧이5주부터 너무너무 심해서  제일작은 막냉이만 집에있고 시댁에서 봐주는데 진짜 매일 너무 미안하고 보고싶네요 ㅜㅜ이제 15주되니 입덧이 좋아져서 내일 강아지데릴러가고 출산때까지 계속 함께할 예정이에요!!

 저는 4살고양이랑 같이 키우고있어요! 조리원에 있을때 아가가 누워잇던 패드 매일 가져다가 고양이한테 냄새 맡게 해줬어요. 집에가서는 분리 없이 그냥 뒀는데 고양이가 아가 냄새 쓰윽 하더니 알아서 조심 하더라구요. 지금은 아가가 고양이 잡으러 기어다니고 고양이가 도망가요 ㅋㅋㅋ 

2살된 코숏 2마리 반려중이에요. 아기 태어나서 조리원 있을때 아기 손수건 남편한테 보내서 냄새 맡게 해줬구요. 처음에 집에 와서 아기 방에 방묘문 해서 천천히 만나게 해줬어요. 처음에는 고양이들이 긴장하고 가까이 안오더니 요즘은 지켜주는 느낌이에요. 수유하면 근처에 와서 등보여주면서 앉아서 기다려줘요. 아기가 울면 저한테 와서 다리 긁구요. 

저도 고양이키우고있어요 따로분리는 안할생각입니다 문열고지내는데 닫으면,울어서요 
아기태어나기  1주일전에 미용할생각인데 빠른거같기구하구 산후조리원에서 아기 손수건 가져와서 냄새맡게하고 할려구요 원래 겁많은 아이라 다가올꺼같진않고 시간지나면 와서 볼거같아요

아가랑 고양이랑 잘 지냅니다 ㅎㅎ
저희 아가는 지금 6개월이고 사진은 태어나고 조리원에서 집으로 온지 2주차에 찍은거예요,, 아시다시피 냥이들은 생각보다 착하고 공동육아의 의무감(?)이 있나봐요 처음에는 제 시야에 보이는 선에서만 같이 있게 해주고 밤에는 냥이 분리했어요~냥이도 잘 적응해주고 지금은 저희 아가 냥이 꼬리잡기 하는데 냥이가 오히려 도망다니네요🤣🤣🤣

생후36일 직수만 하고있는데요.
애기 깊게 자라고 막수는 분유 주시는 분들
그러면 엄마는 막수때 유축하나요?
젖이 불어서 아프거나 
밤에 안맥이니까 시간지나서 점점 양이 주는건 아닐지ㅜㅜ

막수는 분유주시는 분들

넹 저도 그렇게하고 있는데 애기 분유먹을때 무조건 유축하고 새벽수유는 직수해요 !!

저도 밤에 분유 먹여서 재우는데 양 줄까봐 유축하고 자요! 그리고 유축한건 얼려뒀다가 혹시나 새벽수유 생기면 그때 주고요 