Halo bun, baiknya bayi dikasih multivitamin apa zat besi ya bun? Kasih saran dong bun merek apa?

Saran vitamin bayi dong

Vitamin D3, zat besi mulai usia 4 bulan dan vitamin A per 6 bulan sekali mulai usia 6 bulan, kalau vit A katanya tersedia dipuskesmas cuma aku blum coba tanya soalnya anakku bru masuk 5 bulan.
Pernah denger penjelasan dokter waktu itu disosmed

Coba aja konsul ke dsa bund, anakku sih minum vitamin D sama zat besi tp dosisnya emg beda2 tiap anak tergantung bb nya dan pertimbangan dri dsa nya, kalo vitamin A cuma ada di puskesmas aja

Anakku konsumsi vitamin d sama zat besi bun.
Vit. D nya teorol diresepinnya si provit d cman mahal bgt akhirnya aku tanya kk ku dan ikutin ank kk ku minum ini
Zat besinya maltofer awalnya ferlin karna manis bgttt akhirnya aku ganti maltofer dengan sendirinya heheheh


Bundaaa klo bayi 7 bulan pilek boleh di kasih fasidol paracetamol drop gk ya?

Paracetamol

Kayaknya cuma aku sendiri ya bun yang punya suami cuek. Habis lahiran anak pertama aku gak nyangka suamiku semakin terlihat secuek itu. Aku udah cape ngemis perhatian. Sampai aku kepikiran kalo hati dan fisik aku udah sembuh aku pengen kerja keras sendirian aja besarin anak sendiri. Karena sekarang punya suami pun serasa gak punya suami. Aku pengen menhargai dan mencintai diriku sendiri agar dalam menjalani kewajibanku merawat anakku bisa kujalani dengan fokus dan bahagia. Maaf ya bun harus membaca postingan seperti kaya gini disini.

Suami

&nbsp; &nbsp; &nbsp;อาหารที่มีรสจัดจ้านและรสเผ็ดนั้น ถือเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับผู้คนในแถบโลกตะวันออกมาอย่างช้านานรวมถึงผู้คนในประเทศไทยด้วย ในประเทศที่ของอาหารสจัดจ้านแพร่หลายขนาดนี้ การหาอาหารรสอ่อนๆค่อนไปทางจืดอาจกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นมา สำหรับผู้ใหญ่หลายๆท่านอาจฝืนที่รับประทานอาหารรสเผ็ดได้บ้าง แต่สำหรับเด็กๆนั้นสามารถทำได้หรือไม่ จำเป็นต้องให้พวกเขาฝึกกินเผ็ดหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ วันนี้บทความของเรามีคำตอบให้คุณผู้อ่านค่ะ แต่ก่อนอื่น เราไปเริ่มต้นรู้จักกับความเผ็ดก่อนดีกว่าค่ะ ว่ามีอาหารอะไรสามารถให้รสเผ็ดได้บ้าง💁&zwj;♀️<hr>อาหารที่ให้รสเผ็ด<img src="https://cdn.billyapi.com/froala/posts/6602/52feb9b0-9ca1-4d43-8f7d-a4b30ece052b.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">เป็นที่ทราบกันทั่วโลกว่าผักหนึ่งชนิดที่ให้ความเผ็ดร้อนแน่ๆก็คือพริกนั่นเองค่ะ&nbsp;แม้พริกเองจะมีหลายชนิด🌶️ แต่ละชนิดก็ให้ความเผ็ดได้ไม่เท่ากัน แต่พริกที่แทบจะไม่ได้ให้ความเผ็ดร้อนเลยอย่างพริกเขียว ก็ยังสามารถส่งกลิ่นเฉพาะตัวของผักตระกูลพริก ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ไม่สามารกรับประทานเผ็ดได้เลย รู้สึกถึงกลิ่นที่ขึ้นจมูกและตีความเป็นความเผ็ดร้อนได้ค่ะเครื่องเทศอื่นๆ&nbsp;หากพูดถึงประเทศไทยของเราและประเทศส่วนใหญ่ในแถบเอเชีย สิ่งที่พอจะเป็นที่นึกถึงคงไม่พ้นผัดประเภทต้นหอม กระเทียม🧄 เมล็ดพริกไทย ซึ่งแม้จะไม่ได้ส่งความเผ็ดร้อน แสบลิ้นขณะรับประทานได้เหมือนพริก แต่ก็ยังส่งกลิ่นเฉพาะตัวที่ทำให้รู้กสึกเผ็ดร้อนขึ้นจมูกได้ และหากพูดถึงเครื่องเทศอื่นๆที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักเช่นเดียวกันแม้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยโดยตรง ก็คงหนีไม่พ้นพืชตระกูลวาซาบิที่ใช้รับประทานคู่กับซูชิในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็สามารถสร้างความเผ็ดร้อนเฉพาะตัวขึ้นจมูกได้เช่นเดียวกันค่ะ<hr>เด็กสามารถรับประทานอาหารเผ็ดได้หรือไม่<img src="https://cdn.billyapi.com/froala/posts/6602/20dc3e39-9095-4e04-aa39-2fda4f8fc5ee.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสมค่ะ&nbsp;หากจะให้กำหนดเกณฑ์ปริมาณที่เหมาะสมนั้นจะสามารทำได้ค่อนข้างยาก เพราะความอ่อนไหวในการรับความเผ็ดของแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นเรื่องของพันธุกรรมด้วย🧬 ลิ้นของบางคนมีตัวรับรสเผ็ดที่ไม่ได้อ่อนไหวต่อโมเลกุลที่ทำให้เกิดความเผ็ด ก็จะสามารรับประทานอาการเผ็ดๆได้มากกว่าคนที่ลิ้นมีตัวรับรสเผ็ดที่อ่อนไหวกับโมเลกุลสร้างความเผ็ดมาก เมื่อรับประทานอาการที่ทำให้เกิดความเผ็ดร้อนเข้าไปนิดเดียวก็จะรู้สึกเผ็ดแล้วค่ะการรับประทานเผ็ดสามารถฝึกฝนได้หรือไม่อันที่จริงการรับประทานเผ็ดนั้นเป็นเรื่องที่ฝึกฝนได้ค่ะ แต่จะฝึกได้มากน้อย ใช้เวลานานแค่ไหนก็เป็นเรื่องที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน เพราะการรับประทานเผ็ดไม่ใช่เรื่องของทักษะหรือพัฒนาการค่ะ แต่เป็นการฝึกให้ตัวรับรสเผ็ดของลิ้น👅นั้นเคยชินกับรสเผ็ดในปริมาณมากๆ สูงขึ้นไปเรื่อยๆจนทำให้เกิดความเคยชิน เมื่อตัวรับรสเผ็ดเกิดความเคยชินแล้ว ร่างกายก็ต้องใช้โมเลกุลที่สร้างความเผ็ดจำนวนมากขึ้นจึงจะทำให้เราเริ่มรู้สึกเผ็ดได้ เราก็จะค่อยๆรับประทานเผ็ดได้มากขึ้นนั่นเอง หากคุณผู้ปกครองต้องการฝึกให้เจ้าตัวน้อยรับประทานอาหารรสเผ็ดได้ อาจเริ่มต้นฝึกได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะเลือกเครื่องเทศที่มีกลิ่นฉุนอ่อนๆมาประกอบอาหารให้เด็กได้ลองก่อน ยกตัวอย่างเช่น กุยช่าย หัวไชเท้า ต้นหอม หอมแดง ซึ่งแทบไม่สสร้างความเผ็ดร้อนเลย แต่ยังส่งกลิ่นฉุนขึ้นจมูก👃 เพื่อให้เด็กๆเคยชินกับกลิ่นเฉพาะตัวของผักประเภทเครื่องเทศค่ะสำหรับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย มีช่วงอายุประมาณ 5-6 ขวบแล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ระบบย่อยอาหารของเด็กมีความแข็งแรงขึ้นมาบ้างแล้ว อาจใช้พริกสดปริมาณเล็กน้อยเป็นส่วนประกอบในการประกอบอาหารให้ลูกได้ลองชิม😋 เพื่อเป็นการทดสอบว่าตัวรับความเผ็ดร้อนของลูกเรามีความอ่อนไหวต่อโมลเลกุลที่สร้างความเผ็ดจากพริกได้มากน้อยแค่ไหน หากรับประทานไปจำนวนเล็กน้อยแล้วเด็กๆแทบไม่รู้สึกเผ็ดเลย รับประทานได้สบายๆ ก็แปลว่าลูกของเราสามารถรับประทานเผ็ดได้โดยธรรมชาตินั่นเอง แต่หากรับประทานเข้าไปนิดเดียวก็เกิดอาการเผ็ดแล้วก็แปลว่าเด็กเป็นคนที่รับประทานเผ็ดไม่ได้เลยค่ะหากเด็กเป็นคนรับประทานเผ็ดไม่ได้เลย🥵 แต่อยากฝึกให้รับประทานได้บ้าง คุณผู้ปกครองอาจจะต้องใช้พริกให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ให้เด็กได้ลองรับประทานก่อน ไม่ให้รู้สึกเผ็ดร้อนจนไม่มีความสุขในการรับประทานอาหาร จากนั้นจึงค่อยๆเพิ่มปริมาณพริกที่ใช้ประกอบอาหารไปเรื่อยๆค่ะ&nbsp; &nbsp; &nbsp;อย่างไรก็ตาม การรับประทานอาหารรสเผ็ดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย หากมองถึงข้อดี พืชผักกลุ่มเครื่องเทศที่ก่อให้เกิดความเผ็ดร้อนบางชนิดนั้นก็มีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอวัยเซลล์ในร่างกายของเราได้ บางชนิดช่วยส่งเสริมให้ระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ช่วยในการลดคอเลสเตอรอลและกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตได้🩸 บางชนิดมีสารที่ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ร่างกายได้ แตการรับประทานเผ็ดมากไปก็มีข้อเสียเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบ เพิ่มกรดในกระเพาะซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแสบท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากจะให้ลูกรับประทานอาหารรสเผ็ด ก็ควรรับประทานในปริมาณที่พอดี ไม่ควรรับประทานมากไปค่ะ

เด็กกินเผ็ดได้ไหม

妊娠中注意してほしい食べ物の中には、チーズがあります。チーズは、不足しがちなカルシウム<span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"🦴"}' id="isPasted">🦴を補うことができるありがたい食材ですが、安全性や塩分など注意すべきこともいくつかあります。今回は、そんなチーズの中でもコンビニなどでも簡単に手に入る「さけるチーズ」について、を食べるときの注意点や安心して食べる方法など見ていきたいと思います<span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"🔍"}' id="isPasted">🔍<hr>さけるチーズは妊娠中でも食べれるの？<img src="https://cdn.billyapi.com/froala/posts/5468/e75ca8cc-f332-49ef-90d8-06b132db6e64.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%; height: 100%;">🧀さけるチーズは妊娠中食べてもOK日本の大手メーカーで製造されているさけるチーズは、ナチュラルチーズなどに含まれている「リステリア菌<span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":0}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":0}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":0}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":0}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"🦠"}' id="isPasted">🦠」の心配はないため、妊婦さんでも安心して食べることができます。日本製のチーズは、製造過程で加熱殺菌処理されているので、その過程でリステリア菌も死滅し感染する恐れがないためです。さけるチーズは、カルシウムやたんぱく質、ビタミンB2などが豊富で、カロリーも低く糖質もほぼ含まれていないため、妊娠中の強い味方<span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"💪🏻"}' id="isPasted">💪🏻になるでしょう。 🧀全てのチーズがOKな訳ではない！さけるチーズには、妊娠中害を及ぼすリステリア菌が存在していませんが、チーズによっては注意が必要なものもあります。チーズは大きく2種類に分かれており、加熱し殺菌されたチーズと、未殺菌乳で作られた非加熱状態のナチュラルチーズがあります。海外製品や未殺菌牛乳🥛で作られたチーズは、ステリア菌が含まれている可能性があるため、妊娠中の摂取は控える必要があります。妊娠中にリステリア菌食中毒になると、子宮収縮を起こし早産や流産のリスクが高まる恐れがあるためです。また、胎盤を通して胎児にも感染する可能性があるので、妊婦さんには特に危険<span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"🚨"}' id="isPasted">🚨な感染菌とも言えるでしょう。<hr>さけるチーズのメリット＆デメリット<img src="https://cdn.billyapi.com/froala/posts/5468/6841790c-4955-4ca8-a694-9a9d471e0a10.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%; height: 100%;"><span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"🤰🏻"}' id="isPasted">🤰🏻妊娠中のおやつにもピッタリさけるチーズのカロリーは、1本あたり約80kcalとなり、2本入りを食べても160kcalほどと比較的低カロリーなのが特徴です。たんぱく質も豊富で、カルシウムやビタミンB2なども含まれており、糖質は低いので、妊婦さんのおやつにもピッタリと言えるでしょう。おやつ代わりに食べるだけでなく、サラダ<span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"🥗"}' id="isPasted">🥗などに加えても美味しく召し上がれます。ですが、毎日食べ続けてしまうと、高血圧やむくみなど体への影響が出る可能性もあるので、適度な頻度と量を摂取することが大切です。 <span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":637,"3":{"1":0},"5":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"6":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"7":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"8":{"1":[{"1":2,"2":0,"5":{"1":2,"2":12040119}},{"1":0,"2":0,"3":3},{"1":1,"2":0,"4":1}]},"9":1,"12":0}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"🧂"}' id="isPasted">🧂食べ過ぎは塩分の過剰摂取にもさけるチーズには、1本あたり0.49gの塩分が含まれています。厚生労働省によると、妊婦さんが摂取しても良い塩分量は、一日6.5g未満です。妊娠中に塩分を過剰摂取すると、むくみの原因になったり、妊娠高血圧症候群になるリスクも高まります。妊娠高血圧症候群になってしまうと、赤ちゃん<span data-sheets-root="1" data-sheets-userformat='{"2":14915,"3":{"1":0},"4":{"1":2,"2":16777215},"9":1,"12":0,"14":{"1":2,"2":3487029},"15":"sans-serif","16":12}' data-sheets-value='{"1":2,"2":"👶🏻"}' id="isPasted">👶🏻に酸素や栄養が行き届かなくなり、早産や胎児発育不全につながる恐れもあります。チーズに含まれている塩分量は決して低くないので、さけるチーズをおやつとして食べる時も、目安を2本程度にし食べ過ぎないよう心がけましょう。

妊娠中のさけるチーズは大丈夫？

Có mom nào dùng ti giả cho bé ko và có nên dùng ko á? 

Ti giả 

:)) Cho dùng ti giả nếu bé mà chịu hợp tác thì mom nhàn lắm luôn á

Mình ko giám cho dùng luôn á, sợ khó cai

Còn tuỳ bé nữa. Bé nhà mình nhất quyết không chịu ti giả 🤣

Con mình thì thích ti avent, ko chịu ti bibs. Nói chung là ti giả ko phải nhét phát nó mút ngay mà phải mớm 2-3 lần con mới chịu. Chưa kể ko phải lúc nào con cũng thích chơi ti giả. Con mình chỉ ngậm ti giả lúc buồn ngủ thôi, còn vào cơn ngủ rồi nhét ti ko chịu. Mình cũng hạn chế ti giả lắm vì mút nhiều tăng nguy cơ viêm tai giữa. Nên cho con chơi ti giả sau 1 tháng và cai trước 6 tháng nha. Tránh ảnh hưởng đến phát triển của xương hàm.

&nbsp; &nbsp; &nbsp;การพักผ่อน😴ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่ด้วยหน้าที่การงานหรือภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่างๆ อาจทำให้คุณแม่ไม่สามารถละทิ้งไปได้ จึงต้องยอมอดหลับอดนอนเพื่อทำให้งานลุล่วงผ่านไปด้วยดี โดยเฉพาะการเข้าทำงานกะกลางคืน และการทำโอที การที่คนท้องทำงานเยอะจนไม่มีเวลานอน เข้านอนดึก จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์อย่างไรบ้าง เราได้หาคำตอบมาให้คุณแม่แล้วค่ะ💁&zwj;♀️<hr>ความเสี่ยงต่อสุขภาพคนท้องจากการนอนดึก<img src="https://cdn.billyapi.com/froala/posts/5096/a61eec79-6bb3-43e3-990d-6ec1e6c04b65.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">✨ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลงคนท้องที่ทำงานในช่วงกลางคืน🌃 อาจทำให้การนอนหลับพักผ่อนได้น้อยกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อคุณแม่นอนไม่เพียงพอสิ่งหนึ่งที่ตามมาคือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของคุณแม่ลดน้อยลงค่ะ และยังทำให้ลูกในท้องน้ำหนักตัวน้อยลงได้ค่ะ✨อัตราการเต้นของหัวใจลดลงอาการอัตราการเต้นของหัวใจ🫀ลดลง เป็นผลมาจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื่องจากว่าการนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนท้องอย่างมาก✨เกิดความเครียดการทำงานในช่วงกลางคืนอาจทำให้เกิดความเครียดขึ้นได้🤬มากกว่าช่วงกลางวัน และเมื่อคนท้องเครียดมาก ก็จะส่งผลต่อสุขภาพและการเตริญเติบโตของลูกน้อยในท้องได้ และยังเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนดอีกด้วยค่ะ✨เสี่ยงต่อการแท้งลูกมีการศึกษาหนึ่งรายงานว่า ผู้หญิงที่ทำงานเป็นเวลานานในช่วงกลางคืนมักมีความเสี่ยงสูงที่อาจทำให้แม่ท้องคลอดก่อนกำหนด หรือไม่ก็เกิดอาการแท้งลูก🩸ได้ค่ะ<hr>สิ่งที่คุณแม่ควรทำหากต้องทำงานกะกลางคืน<img src="https://cdn.billyapi.com/froala/posts/5096/20e66b33-c14e-4253-89a7-06ddbe7d1f10.gif" class="fr-fic fr-dib" style="width: 100%;">👉พิจารณาลักษณะงานควรดูลักษณะงาน📋ว่ามีความอันตรายต่อลูกน้อยในท้องหรือไม่ และลองปรับการทำงานเพื่อลดอาการเสี่ยงการแท้ หรือการคลอดลูกก่อนกำหนด👉ควรนั่งพักเป็นระยะคุณแม่ไม่ควรยืนเป็นเวลานานๆ ควรนั่งพักผ่อน💺เป็นระยะ และควรปรับท่านั่งให้เป็นท่าที่สบายด้วยค่ะ👉เลี่ยงการสัมผัสกับแสงไฟช่วงกลางคืนการทำงานที่สัมผัสกับแสงไฟจ้าๆ เช่น แสงหลอดไฟนีออน💡 เป็นเวลานานนั้นอาจส่งผลเสียต่อดวงตาของคุณแม่ได้&nbsp;👉ทานอาหารเพิ่มเมื่อรู้สึกหิวคุณแม่ไม่ควรอดอาหารเด็ดขาด เพราะช่วงตั้งครรภ์ทารกต้องการสารอาหารมากขึ้น ดังนั้นคุณแม่ควรทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพเมื่อหิวในช่วงกลางคืน เช่น ผลไม้ 🍓👉ไม่ควรก้มตัวบ่อยการงอตัวเพื่อเก็บของ ยกของ หรือการก้มตัวบ่อยๆ นั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์🤰 หากมีความจำเป็นจริงๆ คุณแม่ควรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงาน👉เลี่ยงการดื่มกาแฟช่วงกลางคืนคุณแม่ควรเลี่ยงการดื่มกาแฟ☕️ช่วงกลางคืนในปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะอาจนำไปสู่การแท้งลูกหรือน้ำหนักตัวลูกแรกคลอดน้อยเกินไปนั่นเอง&nbsp; &nbsp; &nbsp;สรุปได้ว่า ไม่แนะนำให้คนท้องทำงานในช่วงกลางคืน เพราะในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่ควรนอนพักผ่อนให้ได้ 8-9 ชั่วโมง หากคุณแม่จำเป็นต้องทำงานช่วงกลางคืนก็ควรหาเวลาในช่วงอื่นๆ งีบหลับ หรือนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ และควรเตรียมเบอร์ฉุกเฉิน🆘ไว้กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉินในช่วงกลางคืนด้วยค่ะ

คนท้องสามารถทำงานกะกลางคืนได้ไหม

Hallo bunda bunda yang sebentar lagi babydragon nya akan launching atau yang sudah launching, sehat selalu untuk kita dan bayi.. boleh minta afirmasi positif ga bun, kebetulan aku lagi gelisah karna udah mau masuk hpl🥹🫶🏻

Teruntuk bunda bunda hpl november💐

hpl nov tanggal berapa bun? aku juga hpl nov 🤗

Semangat yaa buat bunda semuanya kita pasti bisa melewati dan menjalani proses lahiran nanti dengan lancar, selamat, sehat dan tanpa kurang satu apapun aamiin🤲🏻 dan buat yg sudah lahiran semangat mengasihi yaa bun!💪🏻

Aku juga hpl nopember bun, semangat yaa bunda, bismillahirrahmanirrahim dipermudah dlm menjalani persalinan, lahir normal, bayi dan bunda selalu sehat dan kuat.. aamiin yaa Rabb 🤲🏻🤲🏻🤲🏻

Aku jg hpl 2nov bund blm da gelombang cinta. Yuk semangat sama2 kasi afirmasi postif, bismillah semoga bsa cpt melahirkan ya kita semua di hpl nov . Aamin 

Semangat bunda, melahirkan adalah proses alami yang sudah pasti tubuh kita bisa melakukannya. Yuk percaya semua akan baik baik saja🫶